สรุปข่าว 19.35 น.
+++ความคืบหน้าหลังจากลงพื้นที่เกิดเหตุรถตกเหวจากกรณีรถโดยสารไม่ประจำทางของ บขส.เกิดเหตุเสียหลักพลิกคว่ำตกเหวลงเขาพลึง จังหวัดอุตรดิตถ์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กรมทางหลวง เข้าไปสำรวจเส้นทางที่เป็นจุดเสี่ยงทุกแห่ง โดยเฉพาะจุดที่เกิดเหตุ และทำการก่อสร้างจุดพักรถบริเวณทางขึ้น-ลง เขา ให้มีการติดตั้งป้ายสัญญาณเตือนให้ชัดเจน ซึ่งบริเวณทางลงเขาพลึงจะเป็นจุดที่ 2 ที่จะดำเนินการแก้ไขปรับปรุงเส้นทางต่อจากถนนหมายเลข 304 เส้นทางสายปากเกร็ด ถึงสะพานต่างระดับจังหวัดนครราชสีมาที่ได้ดำเนินการแก้ไขอยู่ในขณะนี้ และได้สั่งการให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท เร่งสำรวจเส้นทางจุดเสี่ยงทุกแห่งและเร่งแก้ไขโดยเร็ว รวมถึงเตรียมศึกษาการนำแนวทางนับชั่วโมงการทำงานแบบนักบินมาใช้กับพนักงานขับรถเพื่อให้พนักงานขับรถ มีสภาพร่างกายที่พร้อมต่อการให้บริการ และพนักงานบนรถ บขส.ต้องแนะนำระบบรักษาความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร โดยเฉพาะการคาดเข็มขัดนิรภัย ขณะที่คนขับจะต้องแนะนำตัวแก่ผู้โดยสารให้รับทราบก่อนทุกครั้ง ซึ่งทาง บขส.จะต้องร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบกในการบังคับใช้กฎหมายระบบรถโดยสารสาธารณะเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
+++ด้าน พล.ต.อ. อำนาจ อันอาตม์งาม กรรมการบริษัทฯและรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นการตรวจสอบสภาพรถโดยสารไม่ประจำทางที่เกิดอุบัติเหตุพบว่า มีการตรวจสอบสภาพรถตามมาตรฐานและมีอายุการใช้งานรถเพียง 6 ปีจาก 30 ปี และพนักงานขับรถมีอายุการทำงานมาประมาณ 20 ปี และไม่เคยมีประวัติการขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุ และมีการผลัดเปลี่ยนพนักงานขับรถทุก 4 ชั่วโมงตามที่กฎหมายกำหนด แต่ต้องรอผลสรุปการเกิดอุบัติเหตุจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง และส่วนของสภาพถนนที่ใช้ในการสัญจรดังกล่าวถนนเป็นไปตามมาตรฐานมี 4 ช่องจราจร แต่ลักษณะมีความลาดชันและมีความคดเคี้ยว ซึ่งในอนาคตหากทางกรมทางหลวง(ทล.) และกรมทางหลวงชนบท(ทช.) พบว่า มีเส้นทางใดที่สำรวจแล้วยังไม่ปลอดภัยจะมีการประสานงานร่วมกันให้มีเจ้าหน้าที่ให้ไปประจำจุดเสี่ยง เพื่อเริ่มดำเนินการก่อสร้างแผงกั้นและจุดพักรถต่อไป โดย บขส.ได้มีวงเงินสินไหมจากการทำประกันการเดินทางเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 800,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลไม่เกินรายละ 280,000 บาท และหากเป็นพนักงานของบริษัท กสท.ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ของบริษัทจะได้รับเงิน 200,000 บาท และหากเป็นสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์จะได้รับเงิน 135,000 บาท สำหรับคณะทัวร์ผู้เกษียณอายุของ บริษัท กสท.โทรคมนาคมที่เดินทางกลับจากจังหวัดน่าน โดยรถคันที่เกิดเหตุเป็นรถที่จัดกิจกรรมทัศนศึกษา ณ จังหวัดน่านและจังหวัดแพร่ โดยมีผู้โดยสารและคนขับรถทั้งหมด 38 คน ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 20 คน ขณะนี้ได้นำส่งโรงพยาบาลทั้งหมดแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตจำนวน 18 คน ญาติผู้เสียชีวิตได้เคลื่อนศพกลับสู่ภูมิลำเนาทั้งหมดแล้ว
+++นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยก่อนการประชุมกรธ.ว่า ขณะนี้ กรธ. ได้จัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง เสร็จแล้ว โดยทั้งฉบับมีจำนวนมาตราทั้งสิ้น 124 มาตรา สำหรับประเด็นการรีเซ็ทระบบสมาชิกพรรคการเมืองนั้น ได้เขียนกำหนดไว้ในเนื้อหาด้วย ซึ่งในวันที่ 24 พ.ย. นี้ กรธ.จะแถลงรายละเอียดให้สาธารณะรับทราบเนื้อหาอีกครั้ง ก่อนเข้าสู่วาระพิจารณา นายมีชัย ได้หารือต่อที่ประชุมกรธ. ว่า หากกรธ. จัดทำร่างกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องกับด้านการเมืองแล้วเสร็จ ยังมีร่างกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องกับองค์กรอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ซึ่งต้องอาศัยผู้ที่มีความรู้ที่เกี่ยวข้องร่วมพิจารณาเนื้อหาด้วย เบื้องต้นอาจประกาศเพื่อรับสมัครบุคคลที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญ เพื่อให้เข้าร่วมเป็นอนุกรรมการเพื่อพิจารณากฎหมายลูกแต่ละฉบับ และขอให้กรธ. ช่วยทาบทามบุคคลที่มีความรู้ และประสบการณ์ในด้านที่เกี่ยวข้องให้ร่วมทำงานด้วย
+++ด้านนายเธียรชัย ณ นคร กรธ. เปิดเผยว่า สำหรับการเผยแพร่ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองนั้น กรธ.เตรียมนำเนื้อหาเผยแพร่ลงในเว็ปไซต์ของกรธ. เพื่อให้สาธารณะ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.), สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.), ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พิจารณาเนื้อหา และหากมีประเด็นข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสามารถส่งกลับมายังกรธ.เพื่อให้แก้ไขหรือปรับปรุงเพิ่มเติมก่อนส่งให้ สนช. พิจารณาตามกระบวนการที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำหนด
+++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีครม.ทบทวนมติให้นายปกรณ์ นิลประพันธ์ ทำหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฏีกา เพียงตำแหน่งเดียว จากเดิมที่ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีด้วยว่า ครม.เห็นว่างานของนายปกรณ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาและงานในตำแหน่งเลขานุการกรธ. มีเยอะอยู่แล้ว ควรให้ทำหน้าที่ตรงนั้นก่อน ส่วนตำแหน่งเลขาฯครม.ให้นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ทำหน้าที่รักษาเลขาธิการครม.ต่อไปก่อน พร้อมยืนยันว่านายปกรณ์ไม่ถือว่าสอบตกในการทำงานตำแหน่งรองเลขาธิการครม.แต่อย่างใด ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ได้ชี้แจงให้นายปกรณ์เข้าใจแล้ว
+++การเข้าควบคุมตัว พระธัมมชโย รายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ รายงานว่า ขณะนี้ดีเอสไอกำลังประชุมเตรียมการเพื่อวางแผนการเข้าจุบกุมตัวพระธัมมชโย ซึ่งครั้งนี้จะทำเป็นความลับ หวังผลอยากจะจับกุมให้ได้เลย ครั้งนี้ทีมจับกุมจะปรับแผนเข้าจับกุมใหม่และจะไม่เหมือนเดิม จะเข้าไปจับกุมโดยไม่ให้สื่อมวลชนรู้ล่วงหน้า เพราะเกรงว่าถ้าออกข่าวไปพระธัมมชโยและบรรดาลูกศิษย์ลูกหา จะรู้ตัวก่อน ขณะนี้ดีเอสไอพร้อมดำเนินการแล้ว เพียงแต่รอความชัดแจนจากหลายฝ่ายอีกครั้ง ซึ่งหมายจับผู้ต้องหามีหลายหมาย ส่วนวันและเวลาที่จะบุกจับพระธัมมชโยยังไม่ได้กำหนดต้องรอประชุมหารือแผนปฎิบัติการร่วมกับตำรวจก่อน
++++นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้ชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวว่าพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร ได้เดินทางออกนอกประเทศไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่า กระแสข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะขณะนี้หลวงพ่อยังพักรักษาอาการอาพาธอยู่ภายในวัดตามที่เคยให้ข่าวไปก่อนหน้านี้ ประกอบกับหลวงพ่อไม่มีหนังสือเดินทางหรือวีซ่าใดๆ เนื่องจากไม่ได้ไปต่ออายุ จึงไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ และหากเดินทางออกนอกประเทศจริง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหลุดรอดสายตาของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ส่วนถูกสั่งฟ้องในคดีฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นนั้น นายองอาจ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางคณะศิษย์ฯ จะขอประชุมหารือกันก่อน แล้วจะแจ้งแถลงข่าวให้ทราบอีกครั้ง
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดภาคบ่าย เพิ่มขึ้น 10.68 จุด ที่ 1,496.36 จุด มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 50,686.61 ล้านบาท นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยืนในแดนบวกได้ แต่วอลุ่มเทรดโดยรวมยังชะลอตัว ตลาดฯเป็นลักษณะของการหมุนเวียนหุ้นเล่น นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติก็ยังคงขาย หลัง Bond yield สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นเรื่อย ๆ รับผลกระทบจากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐที่อาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นอีกทั้งกำไรของบริษัทจดทะเบียนในบ้านเรางวดไตรมาส 3/59 คาดว่าส่วนใหญ่จะพลาดเป้า และไตรมาส 4/59 ก็คงจะชะลอตามเศรษฐกิจ โดยแนวโน้มกำไรของตลาดฯ ออกมาติดลบกว่า 2% แล้ว (คิดระยะเวลา 12 เดือนล่วงหน้า) ส่วนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯที่พึ่งออกมานั้น มองว่าเป็นการช่วยประคับประคองตลาดฯ มากกว่า
+++ส่วนดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดตลาด 18,162.94 เพิ่มขึ้น 56.92 จุด ฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาด 22,676.69 ลดลง 1.38 จุด +++สื่อของญี่ปุ่นรายงานอ้างกลุ่มสหกรณ์แห่งหนึ่งในเมืองฮิโกะเนะ คณะผู้จัดการแข่งขันกินจุของญี่ปุ่นว่า ชายชาวญี่ปุ่นวัย 28 ปีคนหนึ่งเสียชีวิตหลังมีอาการสำลักอาหาร ข้าวติดคอ ระหว่างการแข่งกินจุข้าวปั้นที่จัดขึ้นในเมืองฮิโกะเนะ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ชายดังกล่าว หมดสติล้มลง ขณะพยายามกินข้าวปั้นโอนิงิริ 5 ชิ้นภายใน 3 นาที เขาเสียชีวิตในโรงพยาบาลในอีก 3 วันต่อมา ด้านคณะะผู้จัดงานได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับการแข่งขันกินจุเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มีผู้ชมจำนวนมากในญี่ปุ่น จัดขึ้นทุกปีเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตรของญี่ปุ่น ปีนี้มีผู้เข้าร่วมแข่งขัน 15 คน ด้านผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า นอจากอาการสำลักอาหารแล้ว ผู้กินจุมีความเสี่ยงทำให้ระบบทางเดินอาหารหรือหลอดอาหารแตกได้