หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงมาตราช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนไว้ 8 ล้านคน โดยใช้เงื่อนไขวิธีการเดียวกับเกษตรกร คือ รายได้เกินกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินช่วยเหลือ 1,500 บาท หากรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จะได้เงิน ช่วยเหลือ 3,000 บาท ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการต่อเนื่องมาจากการช่วยเหลือเกษตรกร เนื่องจากรัฐบาลมีความห่วงใยผู้ที่มีรายได้น้อย และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือประชาชนที่มาขึ้นทะเบียนก่อนหน้านี้ และรวมไปถึงอาชีพอื่นๆ ด้วย โดยฝ่ายกฎหมายได้มีการตรวจสอบแล้ว ว่า ไม่ผิดกฎหมาย
นายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่า ได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวและกีฬา แก้ปัญหาทัวร์ที่ไม่มีคุณภาพ และผิดกฎหมาย โดยจะให้ความช่วยเหลือให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งรัฐบาลต้องดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวภายในประเทศให้มากที่สุด ขณะเดียวกัน ให้หน่วยงานต่าง ๆ หากมีการจัดสัมนาก็ขอให้จัดภายในประเทศ นายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่าในช่วงปีใหม่นี้ได้เตรียมออกมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวไว้แล้ว เช่นกัน
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังได้มีมติเห็นชอบปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 69 จังหวัด ในอัตรา 5 - 10 บาท มีเพียง 8 จังหวัด คือ สิงห์บุรี ชุมพร นครศรีธรรมราช ตรัง ระนอง นราธิวาส ปัตตานี ยะลา ที่ยังไม่มีการปรับขึ้นค่าจ้าง พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า แม้ว่าตัวเลขการขึ้นค่าจ้างจะไม่มากหนัก แต่ก็ถือเป็นกำลังใจเพราะขนาดนี้เศรษฐกิจรายได้ยังไม่มากดังนั้นการขึ้นค่าจ้างจึงได้คำนึงถึงความสมดุลระหว่างผู้ประกอบการด้วย
ส่วนกรณีที่ครบรอบ 1 เดือนในการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ ซึ่งยังมีปัญหาอยู่ นายกรัฐมนตรีระบุว่าส่วนตัวยังไม่พอใจกับผงการปฏิบัติงาน ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ไปจัดระบบการจราจรให้เกิดความเชื่อมโยง ซึ่งจะต้องทำให้บ้านเมืองมีความเป็นระเบียบร้อยขึ้น
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยด้วยว่าได้มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีญาติผู้เสียชีวิตร้องเรียน กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.สุทธิสาร ได้เข้าจับกุมและทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ขณะจับกุมตัวนักเล่นพนันไฮโล โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายพร้อมขอให้ญาติผู้เสียหายรอการพิจารณาคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนกรณีที่ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเตรียมฟ้องร้องกระทรวงพาณิชย์ กรณีนำเข้าข้าวสาลีจนทำให้ข้าวโพดราคาตกต่ำ นายกรัฐมนตรีระบุว่า การนำเข้าต้องไปดู ระเบียบการนำเข้าว่ามีการนำเข้า และพันธะสัญญาทางการค้ากับต่างประเทศหรือไม่ โดยต้องการให้คำถึงภาพรวมการค้าระหว่างประเทศ ไม่ใช่เพียงแต่ภายในประเทศเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ก็ได้มีการปรับการนำเข้าข้าวโพดจากต่างประเทศ โดยสนับสนุนให้ใช้ข้าวโพดภายในประเทศมากขึ้น ขณะเดียวกันรัฐบาลได้ขอความร่วมมือกับเอกชนให้มารับซื้อ ข้าวโพดจากเกษตรกร พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร แต่ยืนยันว่าเป็นการแก้ปัญหาทั้งระบบ ส่วนMOU ที่กรมส่งเสริมการเกษตรทำสัญญากับบริษัทเมล็ดพันธุ์ให้มีการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โยจะต้องใช้เมล็ดพันธุ์จากเอกชน เพราะรัฐบาลผลิตเมล็ดพันธุ์ไม่เพียงพอ จึงต้องดึงเอกชนมาร่วมมือโดยให้ขายเมล็ดพันธุ์ให้เกษตรกรในราคาถูก ซึ่งMOUฉบับนี้เนื้อหาบางส่วนระบุว่าเอกชนจะต้องขายเมล็ดพันธุ์ในราคาที่เป็นธรรม พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน