ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ ปิดที่ 45.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคมลดลง เพิ่มขึ้น 37 เซนต์ ปิดที่ 46.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลาดน้ำมันมีความอ่อนไหว ติดตามการประชุมในกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ สัปดาห์หน้า คาดว่า สมาชิกโอเปก อาจจะลดกำลังการผลิตลงเหลือ 32.5 ล้านบาร์เรลถึง 33 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับกำลังผลิตราว 33.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนตุลาคม คาลิด อัล-ฟาลิห์ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยว่า มองในแง่ดีว่าท้ายที่สุดสมาชิกโอเปก จะบรรลุในรายละเอียดของข้อตกลงเบื้องต้นที่เห็นพ้องกันเมื่อเดือนกันยายน และสามารถกำหนดเพดานการผลิตสำหรับแต่ละประเทศ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบเล็กน้อย จากแรงฉุดกลุ่มสุขภาพ นักลงทุนขายทำกำไร หลังก่อนหน้านี้วอลล์สตรีทขยับขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ศึกเลือกตั้ง ขณะเดียวกันก็รอความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายต่างๆของรัฐบาลชุดต่อไปของสหรัฐฯ ดาวโจนส์ ลดลง 35.89 จุด ปิดที่ 18,867.93 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 5.22 จุด ปิดที่ 2,181.90 จุด แนสแดค ลดลง 12.46 จุด ปิดที่ 5,321.51 จุด ส่วนดัชนีแดสแนค ขยับลงในช่วงบ่าย ทั้งที่ช่วงหนึ่งของการซื้อขายพุ่งทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ถูกฉุดจากบริษัทต่างๆอย่างเช่น อัลฟาเบ็ตและแอมเจน ขณะที่ หุ้นวอลล์สตรีท ปิดบวกต่อเนื่อง นับตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยเขามีนโยบายหาเสียงเสนอเพิ่มการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานและลดภาษี ในความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจ
ส่วนราคาทองคำลดลง แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ จากดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและมีความคาดหมายมากขึ้นเรื่อยๆว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 8.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,208.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แฟ้มภาพ