บีบีซีรายงานว่า เด็กหญิงชาวอังกฤษวัย 14 ปีคนหนึ่ง ซึ่งป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายและประสงค์จะให้มีการเก็บร่างของเธอไว้โดยวิธีการแข่แข็งที่เรียกว่าไครโอนิคส์ โดยใช้สารไนโตรเจนเหลว เผื่อว่าในอนาคตอาจจะมีหนทางรักษาเธอให้หายจากโรคร้ายได้ ชนะคดีครั้งประวัติศาสตร์ไม่นานก่อนที่เธอจะเสียชีวิต สำหรับเด็กหญิงดังกล่าวอาศัยอยู่ในกรุงลอนดอนและไม่อาจจะเปิดเผยชื่อได้เนื่องจากเป็นผู้เยาว์ ใช้เวลาในช่วงเดือนท้ายๆของชีวิตค้นคว้าข้อมูลเรื่องการแช่ศพให้คงสภาพอยู่นานโดยวิธีไครโอนิคส์
ก่อนหน้านี้ มารดาของเธอจะทำตามความประสงค์ของเธอ แต่บิดาไม่เห็นด้วย เด็กหญิงคนนี้จึงเขียนจดหมายถึงศาลเมื่อวันที่ 26 กันยายน อธิบายว่าเธอต้องการจะมีชีวิตอยู่นานๆและไม่ต้องการจะมีการฝังศพเธอใต้ดิน ต่อมาเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ผู้พิพากษาศาลสูงของอังกฤษมีคำตัดสินว่ามารดาของเธอจะมีอำนาจตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปกับศพนั้น สำหรับเด็กหญิงคนดังกล่าว เสียชีวิตเมื่อเดือนตุลาคม ต่อมาถูกนำไปยังสถาบันไครโอนิคส์ในรัฐมิชิแกน สหรัฐฯ เพื่อทำการแช่แข็งศพตามความประสงค์ของผู้ตาย แต่รายละเอียดของเรื่องเพิ่งจะมีการเปิดเผยต่อสาธารณชนในวันนี้
สำหรับวิธีการแช่ศพที่เรียกว่าไครโอนิคส์ เป็นวิธีการรักษาสภาพศพให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ เผื่อว่าจะมีหนทางรักษาให้หายจากโรคร้ายในอนาคต ปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนและไม่มีใครรู้ว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่คนที่ตายแล้วจะฟื้นชีพขึ้นมาได้หรือไม่ ในปัจจุบันมีสถานที่ที่สามารถแช่เย็นศพสองแห่งคือสหรัฐฯและรัสเซีย ใช้วิธีการแช่ศพให้อยู่ในอุณหภูมิต่ำมากคือ ลบกว่า 130 องศาเซลเซียส แต่อังกฤษยังไม่มีวิทยาการในเรื่องนี้ สำหรับค่าแช่เย็นศพในกรณีของเด็กหญิงคนนี้คือคิดแบบเหมาจ่าย 37,000 ปอนด์/17.47 น.