*ผู้นำรัสเซีย จะปกป้องชาวรัสเซียในยูเครน หลังรัฐบาลกลับมากวาดล้างกลุ่มต่อต้าน*

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศจะปกป้องชาวรัสเซียในยูเครน หลังการประกาศหยุดยิงยุติลง หลังยูเครนกลับมาใช้กำลังโจมตีกลุ่มกบฏทางภาคตะวันออกอีกครั้ง หลังประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ของยูเครน ประกาศยุติการหยุดยิงฝ่ายเดียวเป็นเวลา 10 วันลงแล้ว ผู้นำยูเครนเปิดเผยว่า ฝ่ายกบฏได้ละเมิดการหยุดยิงกว่า 100 ครั้ง  ขณะที่ยุโรป และสหรัฐกล่าวหารัสเซียว่าส่งอาวุธข้ามพรมแดนเข้าไปให้กลุ่มกบฏในยูเครน

การประกาศยกเลิกข้อตกลงหยุดยิงฝ่ายเดียวดังกล่าวนี้มีขึ้นหลังจากนายโปโรเชนโกเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ไม่นานหลังจากที่ได้รับทราบผลการเจรจา 4 ฝ่าย ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ระหว่างนายโปโรเชนโก ประธานาธิบดียูเครน นางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี นายฟรองซัวส์ ออลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายปูติ ประธานาธิบดีรัสเซีย เพื่อต่อรองแนวทางสันติภาพนั้น ไม่ประสบผลสำเร็จ โดยนายออลองด์แถลงหลังการหารือว่าเงื่อนไขสำคัญหลายอย่างที่จำเป็นต่อการยืดอายุข้อตกลงหยุดยิงยังไม่เป็นที่ยอมรับและเห็นด้วยของทุกฝ่าย 

ฝ่ายตะวันตกกล่าวหารัสเซียว่า มีการลักลอบส่งอาวุธและกำลังคนข้ามแดนเข้าไปในยูเครนเพื่อให้ความช่วยเหลือกบฏ ในขณะที่รัสเซียอ้างว่า ชาวรัสเซียที่เข้าร่วมในการสู้รบในดินแดนด้านตะวันออกของยูเครนนั้นเป็นผู้ที่เดินทางเข้าไปเองโดยสมัครใจ