กฟผ.ชวนชาวไทยร่วมสานต่อ ๙ พระราชปณิธานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

การดำเนินโครงการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) น้อมสืบสานปณิธานของพ่อ ชวนชาวไทยร่วมสานต่อ ๙ พระราชปณิธานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน นายกรศิลป์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ระบุว่า กฟผ.น้อมนำแนวพระราชดำริมาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน และเพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจ และร่วมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ กฟผ. น้อมสืบสานปณิธาน ๘ ด้าน ประกอบด้วย ด้านการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน,ด้านการประดิษฐ์และนวัตกรรม,ด้านการดูแลรักษาป่าและน้ำ,ด้านความพอเพียงและการเอาชนะความยากจน,ด้านการดูแลชาวนา,ด้านการศึกษา,ด้านการประหยัด,ด้านการเสียสละและการให้ทานและด้านการส่งเสริมให้เป็นคนดี 

ด้านนายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร รองผู้ว่าการกิจการ สังคม กฟผ.กล่าวว่า กฟผ.ได้จัดกิจกรรมด้านที่1การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนแล้ว เป็นกิจกรรม ตามรอยเขื่อนพระราชา ที่เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก มีประชาชนเข้าร่วมแปรอักษรแสดงความอาลัยจากแสงเทียนกว่า6,000คน และ ระหว่างวันที่16-18ธันวาคม ที่เขื่อนภูมิพลจะมีการจัดนิทรรศการตามเส้นทางตามรอยพ่อ ตั้งแต่จุดที่พระองค์ทรงประทับแรม ไปจนถึงสวนน้ำพระทัย นอกจากนี้จะจัดแสดงภาพพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับเขื่อนภูมิพลแห่งนี้ ไปจนถึงอาคารเฉลิมพระเกียรติ  และระหว่างวันที่9-11ธันวาคม ยังมีการจัดกิจกรรม 9ที่สุดของหัวใจ  ที่กฟผ.แม่เมาะ จังหวัดลำปาง เพื่อถ่ายทอดพระราชกรณียกิจ ผ่านภาพและเสียง ในรูปแบบการแสดงละครเวทีที่ยิ่งใหญ่ ด้วยการน้อมนำแนวพระราชดำริของพระองค์มาเรียบเรียงเป็นเรื่องราว เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเกิดแรงบันดาลใจในการพัฒนาตัวเองและประเทศ ,จัดฉายภาพยนตร์เทิดพระเกียรติ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพระราชดำรัสเกี่ยวกับการทำความดี,การจัดแสดงบทเพลงแห่งแผ่นดิน ,การจัดแสดงภาพเขียนแห่งความรักบนเซรามิก,จัดทำบทเพลงเสียงแห่งความภักดีโดยให้ประชาชนได้กล่าวความรู้สึกถึงพระองค์และส่งมอบไปยังสำนักพระราชวัง รวมถึงการจัดนิทรรศการที่สุดของดวงใจ ที่แสดงถึงความเมตตาที่พระองค์มีต่อชาวไทย ส่วนพระราชปณิธานด้านที่2 การประดิษฐ์และนวัตกรรม จะจัดโครงการ กล้าคิด กล้าทำ ตามรอยพ่อ รณรงค์ให้ประหยัดพลังงานและพัฒนาศักยภาพชุมชน เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานได้จริง

ด้านที่3การดูแลรักษาป่าและน้ำ จะจัดโครงการปกป่า ป้องน้ำ ตามรอยพ่อ เพื่อรณรงค์ช่วยกันอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกฟผ.ตั้งเป้าว่าจะปลูกต้นไม้ ถวาย400,000ต้น ขณะนี้ดำเนินไปแล้วประมาณ80,000ต้น

ด้านที่4 ความพอเพียงและการเอาชนะความยากจน จะจัดกิจกรรม รักพ่อให้พอเพียง โดยจะนำชุมชนในพื้นที่รอบหน่วยงานมาศึกษาดูงาน เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและดำรงชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้เกิดชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง

ด้านที่5 การดูแลชาว จะช่วยเหลือชาวนาผ่านโครงการ ข้าวไทย9ไกลยั่งยืน  โดยให้พนักงานกฟผ.ซื้อข้าวคนละ 9 กิโลกรัม ถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมขอความร่วมมือจัดจำหน่ายกับโรงเรียน ในโครงการห้องเรียนสีเขียวและพิจารณาจัดหาเครื่องสีข้าวให้แก่ชาวนาในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า รวมทั้งร่วมมือกับวิทยาลัยเทคนิคของจังหวัดต่างๆในการปรับปรุงเครื่องสีข้าวให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและแจกจ่ายให้ชาวนาที่มีความต้องการเครื่องสีข้าวจริงๆ อีกทั้งยังส่งเสริมให้ชาวนาผลิตข้าวกล้องเบอร์ 5

ด้านที่6 เป็นเรื่องการศึกษา กฟผ. จัดกิจกรรมศูนย์การเรียนรู้ศาสตร์พระราชาด้านพลังงานปลูกป่าและชีววิถี บริเวณพื้นที่สีเขียวของการไฟฟ้าพระนครเหนือ เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาและนำกลับไปใช้ในการดำเนินชีวิต ส่งเสริมให้พนักงานกฟผ.และประชาชนชาวไทย ใส่เสื้อเบอร์ 5 ที่ลักษณะไม่ยับ เพื่อจะได้ไม่ต้องรีดและประหยัดพลังงาน ด้านการเสียสละและให้ทาน กฟผ. รณรงค์ รับบริจาคโลหิตจากพนักงานผ่านกิจกรรม 890,000 หยดทดแทนพระคุณพ่อ  และด้านสุดท้ายด้านที่ 9 การส่งเสริมให้เป็นคนดีซึ่งจะก่อสร้างพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชพร้อมแสดง 9 คำสอนของพระองค์ที่เขื่อนภูมิพล ที่ได้ชื่อว่า เขื่อนของพ่อ

ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ