นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ผู้นำญี่ปุ่น แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี หลังเสร็จสิ้นการพบหารือเป็นเวลานานราว 90 นาที กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ ที่อาคาร ทรัมป์ ทาวเวอร์ ในนครนิวยอร์ก เมื่อวันพฤหัสบดี ว่าบรรยากาศ เป็นไปอย่างอบอุ่นและเป็นกันเองมาก และผลของการสนทนาในครั้งนี้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่รัฐบาลกรุงโตเกียว ว่านายทรัมป์จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ญี่ปุ่น สามารถไว้วางใจได้อย่างยิ่ง แต่นายอาเบะ ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดของการพูดคุย
ทั้งนี้ นายอาบะ เป็นผู้นำรัฐบาลจากต่างประเทศคนแรกที่ได้มีโอกาสพบหารือกับนายทรัมป์ นับตั้งแต่ผ่านพ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดและเก่าแก่ของสหรัฐฯในเอเชีย อย่างไรก็ตาม นโยบายหาเสียงด้านความมั่นคงและการต่างประเทศของนายทรัมป์ในช่วงที่ผ่านมาสร้างความหนักใจอย่างมากให้กับญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศในเอเชีย เมื่อนายทรัมป์กล่าวว่าอาจถอนทหารอเมริกันออกจากภูมิภาค และทุกประเทศต้อง ดูแลตัวเอง พร้อมทั้งแนะนำให้ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ด้วย
นอกจากนี้ ว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ คนที่ 45 ยังคงมีจุดยินเดิมเรื่องการยกเจรจาใหม่หรือยกเลิกข้อตกลงการค้าที่ ไม่เป็นประโยชน์ หรือทำให้สหรัฐฯอยู่ในสถานะเสียเปรียบ ซึ่งข้อตกลงที่นายทรัมป์ พิจารณารวมถึงความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก ( ทีพีพี ) ยิ่งเป็น สัญญาณเตือนภัยสำคัญให้ญี่ปุ่นไม่อาจนิ่งเฉยได้อีกต่อไป จากการที่หนึ่งในเงื่อนไขสำคัญที่สุดของข้อตกลงทีพีพีระบุชัดเจนว่า สหรัฐต้องร่วมให้สัตยาบันเพื่อให้ข้อตกลงมีผลผูกพันทางกฎหมาย ที่ตามกำหนดคือภายในช่วงต้นปี 2561
CR:CNN