นิวซีแลนด์ วางแผนฟื้นฟูเมืองหลังแผ่นดินไหว/ก่อการร้ายปท.พัฒนาแล้ว เพิ่มสูงขึ้น/ทรัมป์ปัดทีมงานแย่งตำแหน่งในรัฐบาล

ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.

+++เรือรบ 2 ลำของกองทัพเรือนิวซีแลนด์ เข้าถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ บนเกาะใต้ที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหวขนาด 7.8 และถูกตัดขาดมานานกว่า 2 วัน พร้อมนำอาหาร น้ำ และสิ่งของจำเป็นเข้าไปให้ประชาชนในหมู่บ้าน ขณะที่เฮลิคอปเตอร์อีกหลายลำยังคงทยอยพานักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ออกมาอยู่ในที่ปลอดภัย ทั้งนี้เมืองไคคูรา บนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหวรุนแรง เมื่อคืนวันอาทิตย์ และ ยังมีแผ่นดินไหวระลอกย่อยอีกมากกว่าร้อยครั้ง บางครั้งมีขนาดมากกว่าระดับ 6 เส้นทางคมนาคมทางบกถูกตัดขาด ระบบประปาและไฟฟ้าเสียหาย แต่ทางการนิวซีแลนด์คาดว่าจะได้รับภาพถ่ายดาวเทียมในวันนี้ เพื่อที่จะนำไปวางแผนในการฟื้นฟูเมืองต่อไป  กองทัพเรือนิวซีแลนด์ เปิดเผยด้วยว่า ยังมีเรืออีก 5 ลำที่มุ่งหน้าสู่เมืองไคคูร่า ซึ่งได้แก่เรือยูเอสเอส แซมซัน ซึ่งเป็นเรือรบสหรัฐลำแรกในรอบ 30 ปีที่เดินทางไปนิวซีแลนด์ กับยังมีเรือของออสเตรเลีย แคนาคา และ ญี่ปุ่นที่มีภารกิจเข้าร่วมฉลอง 75 ปีกองทัพเรือนิวซีแลนด์ ก็เดินทางไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเช่นกัน

+++สถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสันติภาพ ระบุว่าดัชนีก่อการร้ายทั่วโลก(จีทีไอ)ประจำปี 2016 บ่งชี้ว่ากลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นสถานที่ที่มีอันตรายเพิ่มขึ้นมากพบว่า เมื่อปีก่อน มีเหตุก่อการร้ายเพิ่มขึ้นสูงมากถึงร้อยละ 650 มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลกราว 89,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าในภาพรวมเหตุก่อการร้ายทั่วโลกจะลดลง มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุก่อการร้ายเมื่อปีที่แล้วลดลงร้อยละ 10 เหลือ 29,376 ศพ เทียบกับสถิติของปี 2557  ตัวเลขที่ลดลงดังกล่าว สืบเนื่องจากความสำเร็จทางทหารในการปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ในซีเรียและอิรักและความสำเร็จของกองทัพไนจีเรียในการปราบปรามกลุ่มโบโกฮารามของไนจีเรีย รายงานระบุว่า 34 ประเทศในองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา(โออีซีดี) รวมทั้งสหรัฐฯ,สหราชอาณาจักร,เยอรมนี,ฝรั่งเศสและตุรกี มีผู้เสียชีวิตจากเหตุก่อการร้าย 731 ศพเมื่อปีที่แล้ว ตัวเลขนี้แสดงถึงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 650 จากปี 2557 โดยในปีนั้นมี 21 ประเทศจากทั้งหมด 34 ประเทศในองค์การโออีซีดี เกิดเหตุก่อการร้ายอย่างน้อย 1 ครั้ง

สำหรับประเทศที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุดคือตุรกีและฝรั่งเศส ขณะเดียวกันลานคอนเสิร์ตบาตาคลองในกรุงปารีส ซึ่งผู้ชมคอนเสิร์ตเสียชีวิต 90 ศพจากเหตุก่อการร้ายเมื่อปีก่อนได้เปิดการแสดงอีกครั้งเมื่อวันเสาร์ หรือ 1 ปีหลังกลุ่มไอเอสก่อเหตุโจมตีหลายจุดพร้อมกันในกรุงปารีสมีคนเสียชีวิตรวมทั้งหมด 130 ศพ รายงานประจำปี ที่จัดทำโดยสถาบันวิจัยฯนี้แสดงให้เห็นถึงรูปแบบวิธีการที่สลับซับซ้อนของการก่อการร้ายว่ามีความรุนแรงต่อเนื่องใน 5 ประเทศคืออิรัก ไนจีเรีย อัฟกานิสถาน ซีเรียและปากีสถาน มีการเสียชีวิตรวมกันคิดเป็นร้อยละ 72 ของเหตุก่อการร้ายทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว และประเทศซีเรียมีเหตุก่อการร้ายในปีที่แล้วเพิ่มร้อยละ 50 จากปี 2557

+++เจ้าหน้าที่ตำรวจเบลเยี่ยม เปิดเผยผลการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้กองเอกสารที่สถานีตำรวจโมเลนบีค ในเบลเยี่ยม เป็นของนายบราฮิม อับเดสลาม มือระเบิดฆ่าตัวตายที่ด้านหน้าของปารีส คาเฟ่ ในฝรั่งเศส ขณะที่น้องชายของเขาคือ นายซาลาห์ อับเดสลาม ถูกคุมขังในเรือนจำ และรอการพิจารณาคดีในชั้นศาล   สำหรับโทรศัพท์ของนายบราฮิม อับเดสลามเครื่องนี้ ถูกเจ้าหน้าที่ยึดไว้เป็นหลักฐานตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ซึ่งเป็นการสอบสวนในคดียาเสพติด แต่มาทราบว่าหลักฐานหายไปก็เมื่อเจ้าหน้าที่พบว่าเขาเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตายที่กรุงปารีส ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 และเจ้าหน้าที่ต่อต้านการก่อการร้าย แจ้งขอหลักฐานการดำเนินคดี เพื่อนำไปตรวจสอบและขยายผลการติดตามคนร้ายรายอื่น  และหลังจากที่มีการค้นหาเป็นเวลานานหลายเดือนก็พบว่าโทรศัพท์นี้ตกอยู่ใต้กองเอกสารของสถานีตำรวจนั่นเอง ในโทรศัพท์มีข้อมูลการติดต่อกับบุคคลต่าง ๆ ที่ร่วมก่อเหตุโจมตีกรุงปารีสและกรุงบรัสเซลส์

+++นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ปกป้องเรื่องการทำงานของคณะทำงานถ่ายโอนอำนาจการบริหารงานในทำเนียบขาว สยบความหวั่นวิตกว่ามีปัญหาวุ่นวายและเกิดภาวะระส่ำระสายขึ้นในคณะทำงานฯของเขา มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางคนลาออก โดยนายทรัมป์ ทวีตข้อความว่า ขณะนี้ การคัดเลือกบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่และตำแหน่งอื่นๆอยู่ระหว่างการดำเนินการอย่างเป็นระบบ เขาเป็นคนเดียวที่จะทราบว่าในท้ายที่สุดโฉมหน้าของคณะรัฐมนตรีและตำแหน่งสำคัญๆอื่นจะเป็นอย่างไร ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์ แต่งตั้งนายไมค์ เพนซ์ ว่าที่รองประธานาธิบดี ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะทำงานถ่ายโอนอำนาจ แทนนายคริส คริสตี ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซี โดยสื่อของสหรัฐฯระบุว่าลูกเขยของนายทรัมป์คือนายจาเรด คุชเนอร์ อยู่เบื้องหลังการเสนอแนะให้นายทรัมป์เปลี่ยนแปลงตัวบุคคล นายคริสตีเคยดำรงดำแหน่งอัยการสูงสุดประจำรัฐนิวเจอร์ซีในช่วงที่บิดาของนายคุชเนอร์ถูกดำเนินคดี และถูกสั่งจำคุกในเรือนจำรัฐนิวเจอร์ซีเมื่อปี 2547 จากความผิดฐานเลี่ยงภาษี,บริจาคเงินรณงค์ทางการเมืองอย่างผิดกฎหมายและฐานเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยาน นอกจากนั้นสื่อของสหรัฐฯระบุว่า นายไมค์ โรเจอร์ส อดีตประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯซึ่งรับหน้าที่ด้านความมั่นคงแห่งชาติในคณะทำงานถ่ายโอนอำนาจ แถลงลาออกเมื่อวานนี้ แต่หนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทมส์ระบุว่าทั้งนายโรเจอร์สและสมาชิกอีกคนในทีมทำงานด้านความมั่นคงแห่งชาติคือ นายแมทธิว ฟรีดแมน ถูกปลดออก

+++ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 24 เซนต์ ปิดที่ 45.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 32 เซนต์ ปิดที่ 46.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 54.92 จุด ปิดที่ 18,868.14 จุดด้านราคาทองคำในวันพุธ(16พ.ย.) ขยับลงเล็กน้อย หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 60 เซนต์ ปิดที่ 1,223.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++บีบีซี รายงานอ้างตำรวจออสเตรเลียว่า นักท่องเที่ยวฝรั่งเศส 2 คน เสียชีวิตระหว่างการลงว่ายน้ำชมปะการังใต้ทะเลในบริเวณที่เรียกว่า เกรตแบร์ริเออร์รีฟ รัฐควีนส์แลนด์ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ตำรวจได้รับแจ้งและเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุเมื่อเวลา 11.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ตำรวจพบศพของ 2 นักท่องเที่ยว เป็นชายหนึ่งศพและหญิงหนึ่งศพ ทั้งสองคนอายุราว 70 ปี จุดที่พบศพอยู่บริเวณที่ระดับน้ำไม่ลึกมากในจุดชมปะการังที่เรียกว่าไมเคิลมาส เคย์ แหล่งท่องเที่ยวเลื่องชื่อแห่งหนึ่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองแคนส์ ด้านบริษัททัวร์ของออสเตรเลียชื่อแพสชั่นออฟพาราไดซ์เพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสอง เป็นหนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวฝรั่งเศส 21 คนที่เดินทางไปเที่ยวชมปะการังดังกล่าว ด้านหนังสือพิมพ์คูเรีย เมลของออสเตรเลีย รายงานอ้างนายโคล แม็คเคนซี ประธานสมาคมผู้จัดทัวร์อุทยานทางทะเลของออสเตรเลียว่า ทั้งสองเสียชีวิตจากอาการโรคหัวใจกำเริบ ทั้งสองคนพูดชัดเจนว่า พวกเขาอยู่ระหว่างการรักษาอาการโรคหัวใจก่อนที่จะลงว่ายน้ำชมปะการังและเสียชีวิตในที่สุด แม้ว่าบริษัทฯทัวร์จะจัดหามัคคุเทศก์ไปดูแลนักท่องเที่ยวไม่ห่างจากจุดที่ลูกค้าทั้งสองลงว่ายน้ำชมปะการัง