สถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสันติภาพ ระบุว่าดัชนีก่อการร้ายทั่วโลก(จีทีไอ)ประจำปี 2016 บ่งชี้ว่ากลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นสถานที่ที่มีอันตรายเพิ่มขึ้นมากพบว่า เมื่อปีก่อน มีเหตุก่อการร้ายเพิ่มขึ้นสูงมากถึงร้อยละ 650 มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลกราว 89,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าในภาพรวมเหตุก่อการร้ายทั่วโลกจะลดลง มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุก่อการร้ายเมื่อปีที่แล้วลดลงร้อยละ 10 เหลือ 29,376 ศพ เทียบกับสถิติของปี 2557
ตัวเลขที่ลดลงดังกล่าว สืบเนื่องจากความสำเร็จทางทหารในการปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ในซีเรียและอิรักและความสำเร็จของกองทัพไนจีเรียในการปราบปรามกลุ่มโบโกฮารามของไนจีเรีย รายงานระบุว่า 34 ประเทศในองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา(โออีซีดี) รวมทั้งสหรัฐฯ,สหราชอาณาจักร,เยอรมนี,ฝรั่งเศสและตุรกี มีผู้เสียชีวิตจากเหตุก่อการร้าย 731 ศพเมื่อปีที่แล้ว ตัวเลขนี้แสดงถึงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 650 จากปี 2557 โดยในปีนั้นมี 21 ประเทศจากทั้งหมด 34 ประเทศในองค์การโออีซีดี เกิดเหตุก่อการร้ายอย่างน้อย 1 ครั้ง
สำหรับประเทศที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุดคือตุรกีและฝรั่งเศส ขณะเดียวกันลานคอนเสิร์ตบาตาคลองในกรุงปารีส ซึ่งผู้ชมคอนเสิร์ตเสียชีวิต 90 ศพจากเหตุก่อการร้ายเมื่อปีก่อนได้เปิดการแสดงอีกครั้งเมื่อวันเสาร์ หรือ 1 ปีหลังกลุ่มไอเอสก่อเหตุโจมตีหลายจุดพร้อมกันในกรุงปารีสมีคนเสียชีวิตรวมทั้งหมด 130 ศพ
รายงานประจำปี ที่จัดทำโดยสถาบันวิจัยฯนี้แสดงให้เห็นถึงรูปแบบวิธีการที่สลับซับซ้อนของการก่อการร้ายว่ามีความรุนแรงต่อเนื่องใน 5 ประเทศคืออิรัก ไนจีเรีย อัฟกานิสถาน ซีเรียและปากีสถาน มีการเสียชีวิตรวมกันคิดเป็นร้อยละ 72 ของเหตุก่อการร้ายทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว และประเทศซีเรียมีเหตุก่อการร้ายในปีที่แล้วเพิ่มร้อยละ 50 จากปี 2557
ทีมต่างประเทศ
แฟ้มภาพ