รองโฆษกสตช. ย้ำไม่มีการปลดผบ.ตร.มอบฝ่ายกฎหมายสอบที่มา การยุบรวมศชต.กับภ.9 อยู่ในกระบวนการศึกษา

16 พฤศจิกายน 2559, 14:01น.


หลังจากมีข่าวในสังคมออนไลน์ เรื่องการปลดพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ออกจากตำแหน่ง พลตำรวจตรี ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) กล่าวว่า เรื่องนี้ขอเน้นย้ำจรรยาบรรณของสื่อมวลชน บางครั้งบางคราวการใช้แผนประทุษกรรมเก่าๆที่เคยทำมาแล้วในอดีตถือว่าล้าสมัยไปแล้ว กลุ่มเดิมๆที่เคยทำด้วยวิธีเก่าๆ ส่วนจะมีคนอยู่เบื้องหลังหรือไม่ต้องสืบสวน เรื่องนี้สืบสวนง่ายกว่าคดีอาชญากรรม ง่ายกว่าตามจับคนร้ายอีก ใครปล่อยข่าวสืบทราบได้อยู่แล้ว เป็นวิธีเดิมๆแต่ยังเอามาใช้ในยุคนี้ เรื่องนี้มีการจุดกระแส แต่เชื่อว่าประชาชนสมัยนี้เข้าใจกระแสโซเชียล และผบ.ตร.ก็ทำงานอยู่ตลอดเวลา ผลงานเป็นที่ประจักษ์ และขอฝากประชาชนหากอ่านข่าวนี้ขอให้ใช้วิจารณญานด้วย

เมื่อเช้านี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ได้ตอบคำถามชัดเจนแล้วว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปลดผบ.ตร. เบื้องต้นผบ.ตร.ได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบว่าการนำข้อมูลเข้าระบบคอมพิวเตอร์ เป็นความผิดฐานใดบ้าง หากผิดก็ต้องดำเนินคดี ซึ่งผบ.ตร.ยังไม่ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ แต่ให้ทีมกฎหมายดูก่อนว่าพฤติกรรมการเสนอเช่นนี้เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ ฐานใด แล้วจึงจะดำเนินการ ยืนยันว่าไม่มีข่าวการปลดผบ.ตร. เบื้องต้นผบ.ตร.ก็ยังไม่ได้คุยกับผู้ใหญ่ในรัฐบาลเป็นการส่วนตัว ผบ.ตร.ก็ยังทำงานเต็มที่ สนองนโยบายรัฐบาลอย่างเต็มที่ พร้อมปฏิบัติภารกิจถวายความปลอดภัยในพระราชพิธีฯ รวมทั้งดูแลบริการประชาชนที่ท้องสนามหลวง โดยผบ.ตร.เดินทางไปสั่งการด้วยตัวเองทุกวัน จึงไม่มีเวลามาสนใจเรื่องพวกนี้ ซึ่งทีมงานโฆษกตร.จำเป็นต้องออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชนเพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชน ว่ากรณีดังกล่าว มีเพียงสื่อเพียงไม่กี่คน ที่ลงข่าวในลักษณะแบบนี้

ส่วนกระแสข่าวนี้เกิดจากความขัดแย้งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่เป็นการอาศัยช่วงโอกาสแบบนี้ปลุกกระแส ซึ่งในส่วนตัวไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มใด และมีเจตนารมณ์อย่างไร 

และจะเป็นคนในหน่วยที่ต้องการตำแหน่งหรือไม่ รองโฆษกตร.กล่าวว่าไม่ทราบ และไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นกลุ่มใด แต่ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับสื่อมวลชนไม่มีความขัดแย้งกัน แต่มีสื่อบางส่วนเท่านั้น จึงขอให้ทบทวนเรื่องจรรยาบรรณของสื่อมวลชนด้วย ว่าการบิดเบือนข้อมูลทำให้สังคมสับสน อีกทั้งทำให้ตำรวจทั้งประเทศสับสนด้วย 

สำหรับการพิจารณาแต่งตั้งระดับรองผู้บังคับการ(รองผบก.)และสารวัตร วาระประจำปี 2559 ที่ตามกฎคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) .ต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ กล่าวว่า ฝ่ายกำลังพลกำลังพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร หากต้องขอขยายเวลาการแต่งตั้งออกไปก็ต้องขออนุมัติต่อ ก.ตร. ในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งในวาระประจำปีนี้ถือว่ารวดเร็วมากแล้ว 

ส่วนแนวคิดการยุบรวมศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.)ที่ดูแลพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ากับ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (บช.ภ.9) รองโฆษกตร.กล่าวว่า การปรับโครงสร้างเป็นเพียงแนวทางหนึ่งในการปฏิรูปตำรวจ ที่นำแนวคิดมาจากคณะกรรมการปฏิรูปของรัฐบาล โดยการยุบรวบ หรือเพิ่มหน่วยต่างๆ ยังอยู่ในกระบวนการศึกษา และรับฟังความคิดเห็น ยังไม่สรุป จึงยังไม่สามารถชี้แจงเหตุผลการเสนอยุบหน่วย รวมทั้งแจกแจงข้อดี หรือข้อเสียต่อสื่อมวลชนได้ และยืนยันว่าแนวคิดนี้ไม่ใช่ธงจากรัฐบาลหรือฝ่ายใด แต่เป็นแนวทางที่ศึกษากันมาและเสนอต่อที่ประชุมในเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งการปฏิรูปมี 2แนวทางหลัก คือการปรับโครงสร้าง และปรับพฤติกรรม โดยยังอยู่ในกระบวนการศึกษา



ผู้สื่อข่าว:พนิตา สืบสมุทร



 



 

ข่าวทั้งหมด

X