นายกฯตรวจงานกระทรวงเกษตรฯ ไม่ทันตั้งตัว/รองนายกฯปัดเซตซีโร่พรรคการเมือง/ทรัมป์ตอบแทนคนใกล้ชิด แต่งตั้งเป็นรมต.

16 พฤศจิกายน 2559, 12:11น.


ข่าวเที่ยงครึ่ง



+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมี พล.อ.ฉัตรชัยสาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯให้การต้อนรับ จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำการถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และเข้าสักการะพระพิรุณทรงนาค สัญลักษณ์ประจำกระทรวงเกษตรฯ ณ พิพิธภัณฑ์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อนที่จะเข้าประชุมร่วมกับข้าราชการระดับสูงประจำกระทรวงเกษตรฯ พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้แจ้งล่วงหน้าเพียง 10 นาทีเท่านั้น ซึ่งตนก็ไม่ได้เตรียมการอะไรมากเป็นพิเศษ เพียงแค่สั่งการให้ข้าราชการไปซื้อข้าวมันไก่ และก๋วยจั๊บ ไว้เป็นมื้อกลางวันของพล.อ.ประยุทธ์เท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาบรรยายสรุปควบคืบหน้าของกระทรวงเกษตร และการจัดทำแผนยุทธ์ของกระทรวงเกษตรระยะเวลา 5 ปี ถึง 20 ปี ประมาณ 20 นาที จากนั้นจะคาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะซักถามเป็นความคืบหน้าการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลเป็นรายหน่วยงาน



+++ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม ปฏิเสธถึงกระแสข่าวรีเซ็ตพรรคการเมืองว่า ในส่วนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)และรัฐบาลยังไม่ได้คิด ส่วนจะทำให้ประเทศวุ่นวายหรือไม่เนื่องจากจากทุกอย่างต้องเริ่มต้นใหม่นั้น ยืนยันว่ายังไม่ได้คิด และทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีก็ตอบไป สำหรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม เดินทางไปร่วมประชุม รมว.กห.อาเซียน อย่างไม่เป็นทางการ ( ADMM Retreat )ที่เวียงจันทร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ( สปป.ลาว ) ระหว่าง 16 - 17 พ.ย. 59 นี้ ที่ประชุมอาเซียนบวกหนึ่งกับประเทศญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เป็นการหารือในเรื่องเกี่ยวข้องความมั่นคง การก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ และความร่วมมือระหว่าง 10 ประเทศด้วยกัน     ขณะที่ พล.ต.คงชีพ. ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมดังกล่าว เป็นกลไกหลักที่สำคัญในการขับเคลื่อนประชาคมความมั่นคงอาเซียน ผ่านกระทรวงกลาโหมของทุกประเทศ ที่ได้ดำเนินการมาครบรอบ 10 ปีในปีนี้ โดยที่ประชุมจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความมั่นคงในภูมิภาค รวมทั้งร่วมทบทวนและประเมินความก้าวหน้าของความร่วมมือกันตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา จากนั้น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จะส่งมอบประธานและเจ้าภาพการประชุม รมว.กห.อาเซียนอย่างเป็นทางการ ให้แก่ กระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ จากนั้น จะมีการประชุม รมว.กห.อาเซียน - ญี่ปุ่น อย่างไม่เป็นทางการ ในฐานะประเทศคู่เจรจา เพื่อร่วมกันขยายความร่วมมือและพัฒนศักยภาพของอาเซียน ให้สามารถตอบสนองต่อความท้ายด้านความมั่นคงของภูมิภาคร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ



+++พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ(รรท.ผบก.สปพ.)เปิดเผยถึงความคืบหน้าการรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับบริษัทโอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ว่าสำนวนการสอบสวนส่งให้อธิบดีอัยการไปแล้วขณะนี้รอเวลาการไตร่สวนสำนวนคดี สำหรับการสืบสวนยังพบว่ามีบริษัททัวร์ที่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวโดยพาไปซื้อสินค้าในราคาที่แพงประเภทอัญมณีที่มีคุณภาพต่ำมาหลอกขายให้กับนักท่องเที่ยวขณะนี้พบว่ามีอีกประมาณ 2-3 แห่งที่มีพฤติกรรมหลอกลวงนักท่องเที่ยว ซึ่งในจำนวนบริษัทที่พูดถึงมีบริษัททีมีชื่อในการจำหน่ายอัญมณี โดยจะมีการตรวจค้นจับกุมต่อไป  สำหรับทัวร์ศูนย์เหรียญนั้นไม่ใช่จะเดินทางเข้ามาไม่ได้แต่ควรพิจารณาในการเข้ามาของลูกค้าบริษัททัวร์ที่ต้องมาที่ราคาสูงกว่าต้นทุนเพื่อนำรายได้เข้ามาในประเทศและควรพาลูกทัวร์ไปซื้อสินค้าที่มีคุณภาพและท่องเที่ยวในแหล่งความรู้รวมถึงที่พักที่มีคุณภาพ เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ



+++หลังผู้โดยสารพลัดตกน้ำที่ท่าเรือนานาชาติ คลองแสนแสบเมื่อวันที่ 10 พ.ย. และจมน้ำเสียชีวิต นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม  เปิดเผยว่า  ได้สั่งการนายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า คุมเข้มเรือด่วนที่ให้บริการในคลองแสนแสบ โดยให้นำเรือโดยสารจอดประชิดท่า ก่อนให้ผู้โดยสารขึ้นหรือลงเรือ   หากไม่ปฏิบัติตาม ถือว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยปะละเลย ต้องถูกลงโทษทางวินัย ขณะที่คนขับเรือและคนประจำเรือ ถ้าผิดครั้งแรกจะตักเตือนก่อน แต่ถ้าทำผิดครั้งต่อไปต้องถูกปรับ 3,000-5,000 บาท ถ้ายังฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม โทษต่อไปคือพักใบอนุญาต 15-30 วันและยึดใบอนุญาตการขับเรือ โดยบริษัท ครอบครัวขนส่ง  จำกัด ซึ่งให้บริการเรือโดยสารในคลองแสนแสบทราบเรื่องนี้แล้ว นอกจากนี้ได้ให้บริษัทฯ ไปปรับปรุงเรือใหม่ 2 ลำ  โดยมีทางขึ้น-ลงอย่างละ 1 ช่องทาง  และมีทางเดินตรงกลางลำเรือเหมือนเรือแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นการจัดระเบียบการขึ้นลงเรือไม่ให้แย่งกัน จากปัจจุบันให้ผู้โดยสารลงเรือได้ทุกทางของลำเรือ คาดว่าจะเริ่มทดลองวันที่ 15 ธ.ค.59-15 ม.ค. 60 นี้ เพื่อดูว่าต้องใช้ระยะเวลาเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน  จากนั้นจะนำข้อมูลมาปรับปรุงการให้บริการ ขอความร่วมมือประชาชนขึ้นลงเรือ ต้องรอให้จอดประชิดท่าก่อน ไม่ควรกระโดด เพราะอาจเกิดอันตรายและพลัดตกน้ำได้



+++นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐกำลังเร่งวางตัวผู้ร่วมคณะรัฐบาลที่จะเข้าบริหารประเทศหลังเขาสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม ท่ามกลางรายงานข่าวว่ามีการแย่งชิงตำแหน่งสำคัญกันฝุ่นตลบคนสนิทของทรัมป์เผยว่า นายรูดี จูเลียนี อดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กที่ได้รับการยกย่องเป็นวีรบุรุษหลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2544 เป็นตัวเก็งที่จะได้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ขณะที่สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นอ้างแหล่งข่าวว่า กำลังมีการวิ่งเต้นภายในอย่างดุเดือดเพื่อชิงตำแหน่งสำคัญ คณะทำงานของทรัมป์กำลังพิจารณาว่า ธุรกิจของนายจูเลียนีวัย 72 ปี หนึ่งในนั้นคือการวิ่งเต้นให้แก่บริษัทน้ำมันของเวเนซุเอลาจะเป็นอุปสรรคต่อการได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งหรือไม่ ตัวเก็งอีกคนคือนายจอห์น โบลตัน อดีตรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศและอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติสายเหยี่ยว.



+++เบเวอร์รี เวลลิง นายกเทศมนตรีเมืองเคลย์ เมืองเล็กๆในรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ทางตอนใต้สหรัฐ ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากเข้าไปชื่นชมความเห็นเหยียดผิวนางมิเชล โอบามา สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งสหรัฐ ที่จุดกระแสวิจารณ์อย่างรุนแรงทั่วประเทศ ก่อนหน้านี้  พาเมลา แรมซีย์ เทย์เลอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาของเคลย์ เคาน์ตี ได้โพสต์เฟซบุ๊ค หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ารู้สึกสดชื่นที่จะมีสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งผู้สง่างาม มีระดับ ในทำเนียบขาว เบื่อเห็น”ลิงสวมส้นสูงเต็มที” จากนั้น นายกเทศมนตรีเวลลิงได้เข้าไปเขียนว่า ถูกใจมากต่อมา ความเห็นของทั้งคู่ถูกลบออกไปและปิดใช้งานเฟซบุ๊ค ขณะมีรายงานว่า เทย์เลอร์ถูกไล่ออกจากงาน    เคลย์ เป็นเมืองเล็กๆที่มีประชากรไม่ถึง 500 คน และมีแต่คนขาวตามผลสำรวจสำมะโนประชากรปี 2553 ส่วนเคลย์ เคาน์ตี ประชากรกว่า 98% จาก 9,000 คนเป็นคนขาว แม้เป็นจุดเล็กๆของประเทศ แต่โพสต์เฟซบุ๊คสุดอื้อฉาวแพร่ไปทั่วสหรัฐอย่างรวดเร็ว มีการยื่นคำร้องออนไลน์ให้ไล่ทั้งสองออกจากตำแหน่งผ่านเวบไซต์ www.thepetitionsite.com และมีผู้เข้าไปร่วมสนับสนุนเกือบ 1.6 แสนรายชื่อทั่วประเทศ

ข่าวทั้งหมด

X