ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.
++++โฆษกกระทรวงความมั่นคงภายในของเยอรมนีกล่าวว่าตำรวจเยอรมนีได้บุกจู่โจมเข้าตรวจค้นมัสยิด อพาร์ทเมนท์และสำนักงานกว่า 200 แห่งใน 10 รัฐเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ หลังต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มดีดับเบิลยูอาร์ หรือกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในเยอรมนี เบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานว่ากลุ่มดีดับเบิลยูอาร์อยู่ระหว่างการวางแผนก่อเหตุโจมตีในเยอรมนี นายโทมัส เดอ แมแซร์ รัฐมนตรีความมั่นคงภายในของเยอรมนีเชื่อว่าการกระทำของกลุ่มดีดับเบิลยูอาร์เข้าข่ายละเมิดรัฐธรรมนูญและยั่วยุให้เกิดความเกลียดชังและความแตกแยกในสังคม เจ้าหน้าที่เยอรมนีประเมินว่ามีคนเกือบ 900 คนออกจากเยอรมนีเพื่อไปเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอสในซีเรียหรืออิรัก
+++นายคริส เกรย์ลิง รัฐมนตรีขนส่งของสหราชอาณาจักรว่า รัฐบาลไม่ยอมรับเนื้อหาสาระกรณีบันทึกความจำที่รั่วไหลบ่งชี้ว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักรยังไม่ได้จัดทำแผนการอย่างชัดเจนเพื่อถอนตัวออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป(เบร็กซิต) บันทึกความจำดังกล่าวที่หนังสือพิมพ์เดอะไทมส์ได้รับมานั้นเตือนว่ารัฐบาลอยู่ระหว่างการจัดทำโครงการที่เกี่ยวกับเบร็กซิตราว 500 โครงการและอาจจะต้องจ้างเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมอีก 3 หมื่นคน พร้อมย้ำว่ามีความเห็นแตกแยกในคณะรัฐมนตรีในเรื่องทิศทางการเจรจาเกี่ยวกับเบร็กซิต ด้านนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของสหราชอาณาจักรแสดงความหวังก่อนหน้านี้ว่าภายในปลายเดือนมีนาคมปีหน้า รัฐบาลจะสามารถเริ่มใช้สิทธิ์ตามมาตรา 50 ของสนธิสัญญาว่าด้วยสหภาพยุโรป หรือการเริ่มขั้นตอนการเจรจา 2 ปีเพื่อถอนตัวออกจากกลุ่มอียู
++++บีบีซีรายงานว่า ศาลยุติธรรมสูงสุดของอียิปต์กลับคำพิพากษาของศาลล่างกรณีตัดสินประหารชีวิตอดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ในคดีร่วมกันหลบหนีออกจากเรือนจำวาดี นัตรุน ระหว่างการประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อเดือนมกราคม 2554 โดยศาลยุติธรรมสูงสุดของอียิปต์สั่งให้มีการพิจารณาคดีใหม่ พร้อมทั้งเพิกถอนคำตัดสินประหารชีวิตสำหรับนายมอร์ซี พร้อมอีก 4 แกนนำกลุ่มภราดรภาพมุสลิม รวมถึงนายโมฮัมหมัด บาดี ผู้นำด้านจิตวิญญาณของกลุ่มฯ นอกจากนั้นศาลฯกลับคำตัดสินคุกตลอดชีวิตสำหรับแกนนำกลุ่มฯอีก 21 คนด้วย ก่อนหน้านี้ นายมอร์ซีชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2555 แต่ถูกกองทัพอียิปต์ปลดจากตำแหน่งในอีก 1 ปีต่อมา หลังมีการประท้วงขับไล่รัฐบาลทั่วประเทศ นอกจากนี้เขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในคดีความผิดฐานก่อการร้าย และยังมีคดีอื่นอีกหนึ่งคดีที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
+++ราคาน้ำมันในวันอังคาร(15พ.ย.) พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 2.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 2.52 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนหน้าการประชุมของโอเปกในวันที่ 30 พศจิกายน ซึ่งเหล่าสมาชิกมีกำหนดหารือกันในรายละเอียดข้อตกลงจะลดกำลังผลิตเหลือราว 32.5 ถึง 33 ล้านบาร์เรล ในความพยายามพลิกฟื้นราคาน้ำมัน จากระดับกำลังผลิต 33.83 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนตุลาคม ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร(15พ.ย.) ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 54.37 ปิดที่ 18,923.06 จุด หลังนักลงทุนโยกเงินออกจากภาคเทคโนโลยี ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากนโยบายคนเข้าเมืองและการค้าระหว่างประเทศของทรัมป์ ไปยังภาคการเงิน ที่จะได้ประโยชน์จากการขึ้นดอกเบี้ยและความคาดหมายคลายกฎระเบียบของว่าที่ประธานาธิบดี ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร(15พ.ย.) ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน จับตาการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,224.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++เอ็มมานูเอล มากร็อง อดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจของฝรั่งเศสเตรียมประกาศตัวในวันพุธ (16) เพื่อลงชิงชัยการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า การประกาศการตัดสินใจของมากร็องซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้มีนโยบายเป็นมิตรกับภาคธุรกิจและเป็นผู้ใกล้ชิดของประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์จะมีขึ้นในช่วงเช้าของวันพุธ (16) ในย่านชานกรุงปารีส ด้านประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศสซึ่งมีคะแนนนิยมที่ตกต่ำเป็นประวัติการณ์ที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาประธานาธิบดีฝรั่งเศสยุคหลังสงครามด้วยกัน เปิดเผยว่า ตัวเขาจะยังไม่ตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตทางการเมืองของตนว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งหรือไม่ จนกว่าจะถึงช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่จะเปิดฉากรอบแรกขึ้นในวันที่ 23 เมษายนปีหน้าถูกคาดหมายว่าจะต้องวัดผลกันถึงรอบชี้ขาดในวันที่ 7 พฤษภาคม ตามผลสำรวจความคิดเห็นของหลายสำนักซึ่งชี้ว่า ผู้สมัคร 2 คนสุดท้ายที่อาจหลุดเข้ามาชิงชัยกันในรอบนี้อาจประกอบด้วย 2 ตัวเต็งคือ อดีตนายกรัฐมนตรีอแล็ง จุปเป ในวัย 71 ปีและนางมารี เลอ ปอง ผู้นำกลุ่มการเมืองขวาจัดเนชันแนล ฟรอนต์วัย 48 ปี
+++ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างบันทึกความจำที่ร่างขึ้นโดยคณะทำงานเรื่องการถ่ายโอนอำนาจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯว่านายทรัมป์จะเริ่มทำงานวันแรกด้วยการทบทวนนโยบายการค้าของสหรัฐฯ บันทึกดังกล่าวร่างเค้าโครงนโยบายการค้าของนายทรัมป์ในช่วง 200 วันแรกของการเข้าทำหน้าที่ประธานาธิบดี มุ่งเน้นหลักการต่างๆรวมถึงการเจรจาต่อรองใหม่หรือการถอนตัวออกจากการทำข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ(นาฟตา)ที่ทำกับแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งเป็นประเด็นที่นายทรัมป์เคยให้คำมั่นมาหลายครั้งระหว่างการรณรงค์หาเสียง
+++ส่วนกระแสต่อต้าน นับตั้งแต่ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างพลิกความคาดหมายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แฮชแท็กบนสื่อสังคมออนไลน์ อย่าง #AssassinateTrump(ลอบสังหารทรัมป์) และ #Killtrump(ฆ่าทรัมป์) แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ขณะที่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ประท้วงคนหนึ่งใกล้อาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ ชูป้ายข้อความให้ล่วงละเมิดทางเพศ เมลาเนีย ทรัมป์ ว่าที่สุภาพสตรีหมายเลข 1 สะท้อนเทรนด์แฮชแท็ก #RapeMelania(ข่มขืนเมลาเนีย) เอริค เฟนเบิร์ก จากบริษัทซอฟต์แวร์แห่งหนึ่ง ที่สังเกตการณ์กิจกรรมผิดกฎหมายและเกี่ยวข้องกับก่อการร้ายบนบัญชีสื่อออนไลน์บอกกับฟ็อกซ์นิวส์ "กลุ่มก่อการร้ายต่างๆอย่างไอเอส ใช้ยุทธศาสตร์นี้เป็นประโยชน์สำหรับเกณฑ์สมาชิกและเปลี่ยนแปลงรากฐานความคิด"
+++ไคลี่ ฟีเซล หญิงชาวอเมริกัน ที่อาศัยอยู่ในย่านแมนฮัตตันของนครนิวยอร์ก ยื่นฟ้องต่อศาลสูงแมนฮัตตัน กรณีพบซากหนู ในชุดเดรส ของ ซารา บริษัทผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปแบรนด์ดังระดับโลก หลังจากพบซากหนูในตะเข็บชุดกระโปรงที่เพิ่งซื้อมาจากร้านใน กรีนวิช รัฐคอนเน็คติกัต ฟีเซล เล่าว่า ขณะทำงาน เธอเริ่มได้กลิ่นฉุนน่ารำคาญและไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ แม้จะลุกจากโต๊ะทำงานเดินไปรอบๆ ก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากกลิ่นอันไม่พึงประสงค์นี้ จากนั้นก็รู้สึกว่า มีบางอย่างหลุดออกจากชุดมาถูกับขาของเธอ และเธอพยายามจะเอามันออก ทำให้เธอถึงกับช็อกและแทบไม่เชื่อสายตา เมื่อพบว่ามันคือซากหนู ด้านโฆษกของซารา ยูเอสเอ ระบุว่า ทราบเรื่องนี้แล้ว และอยู่ระหว่างการ ตรวจสอบ พร้อมทั้งยืนยันว่า ซารา ยูเอสเอ มีมาตรฐานที่เข้มงวดในเรื่องสุขภาพ และความปลอดภัย และมุ่งมั่นที่จะสร้าง ความมั่นใจว่า ทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัท ตอบสนองต่อมาตรการนี้อย่างเคร่งครัด
แฟ้มภาพ