หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงความประทับใจ ที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชว่าประทับใจในทุกอย่าง และทุกบทบาทของตนเองที่ได้เป็นข้าของแผ่นดิน ตั้งแต่เด็ก มาเป็นทหาร จนเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะพระองค์ เป็นบุคคลที่เข้มแข็งและกล้าหาญทำให้อยากที่จะเป็นทหาร โดยประทับใจในทุกเรื่องที่พระองค์ทรงทำเพื่อประชาชนมาตลอดการครองราชย์ 70 ปี เพราะพระองค์ทรงทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง และจะพยายามทำอย่างพระองค์ให้ได้มากที่สุดพร้อมกับน้อมนำหลักการของพระองค์มาปรับประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องในการดำเนินงานด้านต่างๆ
ส่วนความคืบหน้าในการเสนอถวายพระราชสมัญญา "มหาราช" แด่พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชนั้น ต้องให้เสร็จสิ้นพิธีไปก่อน ตอนนี้ขออย่าพึ่งคิดอะไร แม้สิ่งที่ทุกคนคิดดีอยู่แล้ว แต่ยังไม่เหมาะสมแก่เวลาและพระองค์ท่านก็ยังคงอยู่กับพวกเรา ทั้งนี้สามารถคิดไว้ก่อนได้
ส่วนการกำหนดวันหยุดราชการใหม่นั้น จะกำหนดได้ต่อเมื่อมีรัชกาล เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องของภายในพระราชวังที่จะเป็นผู้กำหนด แต่คิดว่าวันเวลาสำคัญต่างๆในช่วงรัชกาลที่ 9 ยังคงมีอยู่ เพราะพระองค์ทำอะไรทำไว้มากเพื่อประเทศไทย เพียงแต่อาจจะต้องเปลี่ยนการเรียกชื่อใหม่ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือ โดยขออย่าใจร้อน
กรณีข้าราชการถ่ายภาพตนเองหรือการเซลฟี่ ขณะเข้าสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งได้มีการตักเตือนไปแล้ว โดยเห็นใจข้าราชการเช่นกัน เนื่องจากข้าราชการก็คือประชาชนคนหนึ่ง ซึ่งอาจไม่มีโอกาสได้เข้าไปยังพระบรมมหาราชวังบ่อยนัก แต่ก็ขอให้ดูในเรื่องของความเหมาะสมด้วย
กรณีสถานทูตสหรัฐอเมริกา ปฏิเสธการให้วีซ่าแก่นางสาวอรพิมพ์ รักษาผล นักพูดชาวไทย ที่จะเดินทางไปพูดเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ขอออกความคิดเห็นในเรื่องนี้ เนื่องจากเคารพในสิทธิ ซึ่งการจะออกหรือไม่ออกให้วีซ่านั้นเป็นเรื่องของทางสถานทูต จะพิจารณา