สถานการณ์ใน3จังหวัดชายแดนภาคใต้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงมีการก่อเหตุ 2-3วันมานี้ สถานการณ์ลดลงมากแต่ยังไม่ไว้วางใจ ส่วนการช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์รายวันรวมถึงการป้องกันเหตุรุนแรง ได้หารือกับแม่ทัพภาค4แล้ว ยืนยันว่าจะพยายามดำเนินการทุกอย่างให้เกิดความสงบ โดยจะใช้กำลังกองพลทหารราบที่5และกองพลทหารราบที่15 ที่ี่เป็นกำลังอยู่ในกองทัพภาคที่4 ร่วมกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต.) เนื่องจากปัจจุบันกำลังพลจากกองทัพภาคอื่นได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่หมดแล้ว เหลือเพียงกองทัพภาคที่4 นาวิกโยธินและกองกำลังทหารพราน ที่ยังคงดำเนินการรักษาความสงบอยู่ ที่มีแม่ทัพภาคที่4เป็นผู้อำนวยการ โดยข้าราชการ ทหาร และตำรวจในพื้นที่ จะต้องทำงานมากขึ้น
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังมีการถอนกำลังของกองทัพภาคอื่นออกไป ส่วนใหญ่จะเป็นการก่อกวนและอยู่นอกพื้นที่ และไม่ทราบว่าผู้ก่อกวนต้องการแสดงอะไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ เนื่องจากเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่จะต้องดูแลความสงบและความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อยู่ใน3จังหวัดให้สามารถประกอบอาชีพได้ ขณะเดียวกันประชาชนในพื้นที่มีการแจ้งเบาะแสและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะประเทศเป็นของทุกคน ดังนั้นงานด้านความมั่นคงเป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย โดยในกรุงเทพมหานครจะเห็นชัดเจนได้ว่า มีความร่วมมือของทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขต และประชาชนในทุกพื้นที่ สังเกตได้ว่าหากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น จะมีคลิปออกมาทันที แสดงให้เห็นว่าเป็นการช่วยกันดูแลรักษาความสงบ
รองนายกรัฐมนตรีขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันดูแลความสงบ พร้อมยืนยันว่าตนดำเนินการทุกอย่างเพื่อทุกคน ไม่ใช่ทำเพื่อใคร เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และประเทศจะได้เดินไปข้างหน้าได้ ส่วนภาพรวมการจับกุมผู้ก่อเหตุวางระเบิดในประเทศนั้น ขณะนี้ได้มีการจับกุมไปเรื่อยๆ โดยมีส่วนที่ได้ DNAมาและบุคคลต้องสงสัยในพื้นที่ภาคใต้ ก็จะมีดำเนินการออกหมายจับและจับกุม ซึ่งถือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานก้างหน้าไปมากด้วยความเข้มแข็ง เข้มแข็งและดูแลในทุกพื้นที่ที่มีความเคลื่อนไหว อาทิ ในพื้นที่มีนบุรี ที่มีการจับกุมทุบรถ ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหามาได้ทั้งหมด