ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,469.23 จุด ลดลง 25.30 จุด มูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 58,165.61 ล้านบาท โดยตลอดทั้งวันดัชนีเคลื่อนไหวแดนลบ ต่ำสุดที่ระดับ 1,467.37 จุด มีแรงเทขายออกมาในหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์
ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตามการไหลออกของเงินทุนต่างชาติ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในกลุ่ม TIP คือไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ หลังจากเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้นค่อนข้างเร็ว จึงทำให้มีแรงขายจากตลาดหุ้นเกิดใหม่และนำเงินกลับไปยังตลาดที่พัฒนาแล้ว คาดตลาดหุ้นจะยังคงผันผวนในลักษณะขาลงต่อไป
ด้านประเภทนักลงทุน สถาบัน ขายสุทธิ 3,628.03 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 365.50 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 2,552.94 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศ ซื้อสุทธิ 5,815.48 ล้านบาท
เช่นเดียวดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากที่นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความคิดเห็นสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ย ดัชนีฮั่งเส็งร่วงลง 308.87 จุดปิดวันนี้ที่ 22,222.22 จุด นอกจากนี้ ตลาดยังมองว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ อาจสามารถกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลให้จังหวะการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าเร็วขึ้น
ส่วน ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดทะยานสวนทางตลาดอื่น แตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนครึ่งในวันนี้ เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงหนุนจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 3 รวมทั้งเงินเยนที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนีนิกเกอิปิดพุ่งขึ้น 297.83 จุด ที่ 17,672.62 จุด