หลังมีข่าวสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตั้งป้ายประกาศแจ้งผู้โดยสาร และลูกเรือที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยว่า บุคคลสามารถนำของใช้ส่วนตัว (Personal Effect) เข้าประเทศได้ไม่เกินครั้งละ 10,000 บาท โดยต้องไม่มีลักษณะทางการค้า เสบียง อาหาร อาหารเสริม เครื่องสำอาง ไม่ได้รับการยกเว้นภาษี, บุหรี่/ยาสูบ/สุรา/ไวน์ นำเข้าได้ในจำนวนจำกัด ของฝากญาติ ของบริจาค ของสะสม ของมือสอง ของฝากเจ้านาย ไม่ถือว่าเป็นของใช้ส่วนตัว กระเป๋า-นาฬิกาแบรนด์เนมราคาเกิน 10,000 บาท ต้องชำระภาษี
นายสมชาย อัศวตรีรัตนกุล หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม สนง.ตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่กฏหมายใหม่เป็นกฏหมายเดิมที่ใช้อยู่แล้ว แต่ขณะนี้ทางสำนักงานศุลกากรฯจะเข้มงวดในการตรวจสอบมากขึ้น หลังที่ผ่านมามีการหิ้วสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขายโดยหลีกเลี่ยงภาษี จำนวนมาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องเร่งหามาตราการในการดูแล ในเบื้องต้นมีการติดตั้งป้ายประกาศห้ามดัง่าวในพื้นที่ทั้งขาเข้าและขาออก
ซึ่งหากพบการกระทำผิดดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะจับและยืดของทั้งหมด แต่หากเจ้าของไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ยืดของหนีภาษี จะต้องมีการสู้คดี ส่งฟ้องศาล และหากศาลตัดสินว่ามีความผิด จะถูกริบของที่ลักลอบหนีภาษี พร้อมทั้งปรับเงิน 4 เท่าของของราคารวมค่าภาษีอากร หรือจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งจำและปรับ
บุศรินทร์/แฟ้มภาพ