บรรยากาศการเข้าถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ภายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ในวันนี้มีประชาชนเดินทางมาที่ท้องสนามหลวงเพื่อมารอเข้าแถวเพื่อเข้าถวายบังคมตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งสำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชนเข้าไปในพื้นที่ตั้งแต่เวลา 05.00 น.
นางอนงค์ วรพจน์ อายุ 75 ปี หนึ่งในผู้ที่มาร่วมถวายบังคมพระบรมศพ เปิดเผยว่า มีความตั้งที่จะเดินทางมาในวันนี้ ซึ่งผ่านมา 1 เดือนแล้วนับตั้งแต่พระองค์ท่านสวรรคตก็ยังรู้สึกเสียใจไม่เปลี่ยนแปลงและพระองค์ท่านจะอยู่ในใจตลอดเวลา นางอนงค์ยังเล่าถึงความประทับใจว่าตนเองเคยรับเสร็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งพระองค์ท่านเสร็จพระราชดำเนินไปที่ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งนับแต่นั้นมาก็ได้ติดตามข่าวสารพระราชกรณีกิจและนำมาปฏิบัติตามโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง โดยส่วนตัวปลูกผิดกินเองตลอดชีวิต และหากเหลือก็นำไปแบ่งปันผู้อื่นด้วย นอกจากนี้ตนเองยังสอนลูก หลาน ให้เรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาทต่อไป
ขณะที่กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย (กอร.รส.) พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมามีประชาชนเดินทางมาเป็นจำนวน 1 แสน 4 หมื่นคน ในจำนวนนี้เป็นผู้ได้เข้าสักการะพบรมศพเป็นจำนวน 3 หมื่นคน รวมถึงได้มีการหารือรับมือเทศกาลลอยกระทงในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ซึ่งจะมีคนเข้ามาบริเวณท้องสนามหลวงจำนวนมาก นอกจากนี้ ทาง กทม.ยังปรับพื้นที่บริเวณสนามหลวงโซนเหนือใกล้จะเสร็จแล้ว โดยมีการติดตั้งเต็นท์จำนวน 70 หลัง โดยพื้นที่ตรงกลางจะมีเต็นท์อยู่ประมาณ 40 หลังใช้เป็นจุดพักคอยของประชาชนที่จะเข้าสักการะ เมื่อถึงคิวแล้วประชาชนก็จะทยอยเคลื่อนที่เป็นกลุ่มทำให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยบังแดดบังฝน ซึ่งการเปิดให้ประชาชนสักการะจะยาวไปจนถึงปี 2560 และในอนาคตจะมีการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชให้ประชาชนได้มีโอกาสรับชมระหว่างเข้าคิวรอ
สำหรับการสัญจรทางน้ำของประชาชนที่จะเดินทางมาสักการะได้มีการตรวจสอบความแข็งแรงของโป๊ะที่อยู่ในมาตรฐาน และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศกิจดูแลประชาชนเพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย
..
ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี