*เพิ่มที่พักรถตู้ วินอนุสาวรีย์ชัย ใต้ทางด่วนติดชุมชนหมอเหล็ง*

การจัดระเบียบรถตู้โดยสาร โดยจัดที่จอดรถที่สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์มักกะสัน ถ.รัชดาภิเษก ซึ่งแบ่งออกเป็น5โซน ทำเสร็จแล้ว3โซน แต่ละโซนจะถูกจัดสรรให้วินรถตู้แต่ละกลุ่มของอนุสาวรีย์ฯ โดยโซนที่1 เป็นวินรถตู้เกาะพญาไท โซนที่2 วินรถตู้เกาะพหลโยธินและวินรถตู้ใต้ทางด่วน และโซนที่3 วินรถตู้เกาะราชวิถีและวินรถตู้เกาะดินแดง ทั้ง3โซนจะมีเส้นแบ่งล็อคจอดรถ รองรับได้1,000คัน หากไม่เพียงพอจะเพิ่มโซนที่4และโซนที่5

นายธวัชชัย สมบูรณ์ หัวหน้าศูนย์ก่อสร้างและบูรณะถนน3 สำนักการโยธา กทม. เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยให้กทม.เข้ามาบริหารจัดการสำหรับการทำเป็นลานจอดวินรถตู้ทั้ง167วิน โดยขณะนี้ได้มีการตกลงกับผู้ประกอบการ ว่าสามารถนำรถเข้ามาได้ในโซนวินของตัวเอง ซึ่งจะแบ่งด้วยสีสติ๊กเกอร์ ส่วนเรื่องความปลอดภัยมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจสลับกันดูแล รถสามารถเข้าออกได้ตลอด24ชม. ในช่วงกลางวันจะมีเจ้าหน้าเทศกิจนำรถฉีดน้ำเข้ามาทำความสะอาดทุกวัน และในอนาคตหากผู้ประกอบการให้การตอบรับ อาจเจรจากับการรถไฟเพื่อขอเปิดทางออกด้านมักกะสัน ข้ามทางรถไฟเข้าถ.กำแพงเพชร7 เพื่อออกใช้เส้นทางไปประตูน้ำ

แต่เนื่องจากสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์มักกะสัน อยู่ห่างจากอนุสาวรีย์ชัยฯ5กม. ทำให้ผู้ประกอบร้องเรียนเรื่องการเดินทาง คณะทำงานจึงจัดจุดพักรถอีกแห่งบริเวณใต้ทางด่วนที่ชุมชนหมอเหล็ง ใกล้สามเหลี่ยมดินแดง เพื่อเป็น แก้มลิงก่อนถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ1.5กม. โดยแนวจอดพักรถจะอยู่2ฝั่งข้างทาง  ระหว่างสามเหลี่ยมดินแดงไปจนเกือบถึงถ.จตุรทิศ สามารถรองรับรถได้200คัน เมื่อคนคุมวินส่งสัญญาณให้ไปรับผู้โดยสาร ก็สามารถใช้เวลาเพียง5นาทีไปอนุสาวรีย์ชัยฯได้

ด้านผู้ประกอบการวินรถตู้ ร้องเรียนว่า  ที่ชุมชนหมอเหล็งจะมีวินรถตู้มาจอดรอเป็นประจำ บ่อยครั้งก็ถูกเรียกเก็บเงินโดยไม่มีเหตุผล หากมีการจัดระเบียบ และให้เป็นจุดพักรถที่ถูกต้อง ก็ถือว่าสะดวกเพราะใช้เวลาเดินทางไปอนุสาวรีย์เพียง10นาที แต่ถ้าต้องเริ่มเดินทางจากมักกะสัน ก็รู้สึกว่าไกลเกินไป ทั้งนี้เห็นด้วยกับแนวทางการจัดระเบียบ แต่ก็อยากให้คำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เมื่อต้องขับรถไปรับผู้โดยสารด้วย

ส่วนผู้โดยสารบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ หลายคนชื่นชมการจัดระเบียบครั้งนี้ เพราะผู้โดยสารก็ขึ้นลงรถตู้ตรงจุดเดิม แต่สภาพแวดล้อมดีขึ้น และรู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นอกจากการจัดระเบียบวินแล้ว อยากให้คณะทำงานเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่ด้วย