ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 43.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนกันยายน ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคา ลดลง 1.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รายงานประจำเดือนของกลุ่มประเทศที่ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ 11พ.ย. พบว่ากำลังผลิตของชาติสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 240,000 ต่อวันในเดือนตุลาคม เป็น 33.64 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นในอิรัก ลิเบียและไนจีเรีย จากข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองในแง่ลบมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่โอเปกจะเห็นพ้องในรายละเอียดของข้อตกลงลดกำลังผลิตที่ได้รับความเห็นชอบเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน โดยโอเปกระบุว่าจะลดกำลังผลิตลงเหลือราวๆ 32.5 ล้าน ถึง 33 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ต้องมีการพูดคุยในรายละเอียดอีกรอบ รวมถึงการแบ่งโควตาของแต่ละชาติสมาชิกในที่ประชุมในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย วันที่ 30 พ.ย.นี้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในกรอบแคบๆ จากแรงฉุดกลุ่มพลังงาน วัสดุและประกันสุขภาพ หลังจากชัยชนะของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี ช่วยดันวอลล์สตรีทพุ่งแรงช่วง 2 วัน ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 39.78 จุด ปิดที่ 18,847.66 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 3.03 จุด ปิดที่ 2,164.45 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 28.31 จุด ปิดที่ 5,237.11 จุด แม้ตลาดเมื่อวานนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย จากแรงฉุดหุ้นกลุ่มพลังงาน วัสดุและประกันสุขภาพ แต่ชัยชนะของนายทรัมป์ ช่วยดันดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011 นักลงทุนวางเดิมพันกับคำหาเสียงของนายทรัมป์ ที่ให้สัญญาว่าจะลดความซับซ้อนเกี่ยวกับกฎระเบียบภาคประกันสุขภาพและภาคการเงิน และเพิ่มการใช้จ่ายในโครงสร้างพื้นฐาน
ส่วนราคาทองคำ ร่วงลงหนัก แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน จากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ความเคลื่อนไหวของตลาดทุนในสัปดาห์นี้ และความคาดหมายว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 42.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,224.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แฟ้มภาพ