หลังการจัดระเบียบย้ายจุดจอดรถตู้โดยสารสาธารณะต่างจังหวัดจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปยังสถานีขนส่งหมอชิต สถานีขนส่งสายใต้ปิ่นเกล้า และสถานีขนส่งเอกมัย เมื่อวันที่ 25 ต.ค. วันนี้กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ แถลงผลการดำเนินการครบ 15 วัน นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยภาพรวมการจัดระเบียบรถตู้ โดยสารสาธารณะ ที่ให้บริการเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ ไปยังต่างจังหวัด จำนวน 4,205 คัน ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. มีรถโดยสารเข้าใช้สถานีขนส่งหมอชิต 2,046 คัน สถานีขนส่งสายใต้ปิ่นเกล้า 1,617 คัน และสถานีขนส่งเอกมัย 542 คัน โดยได้รับความร่วมมือจาก 6 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวก ซึ่งในระยะเวลา 15 วัน ยังไม่พบปัญหาที่เกิดขึ้น โดยทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยืนยันให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจและอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางให้กับประชาชนเป็นหลัก ด้วยการบริการรถ Shuttle bus จากอนุสาวรีย์ไปยัง 3 สถานี ซึ่งพบว่า ประชาชนใช้ Shuttle bus น้อยลง ทำให้คาดการณ์ได้ว่า ประชาชนมีความเข้าใจและสามารถเดินทางไปยังสถานีทั้ง 3 แห่งได้ด้วยตัวเอง แต่อย่างไรก็ยังคงจำนวนรถ Shuttle bus ไว้จำนวนเท่าเดิม ทั้งนี้สิ่งที่เป็นห่วง คือสถานีสายใต้ปิ่นเกล้า เนื่องจากประชาชนอาจยังไม่รู้จุดของสถานี จึงเน้นประชาสัมพันธ์สถานีนี้ให้มาก และใช้รถ Shuttle bus ปรับอากาศวิ่งบนทางด่วน 6 คัน รวมทั้งเพิ่ม รถ Shuttle bus วิ่งรอบสถานีขนส่งปิ่นเกล้า เพื่อลดค่าใช้จ่ายประชาชนกรณีไม่สะดวกมาขึ้นรถที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
นอกจากนี้ยังมีรถ Shuttle bus ให้บริการรอบสถานีขนส่งอีก 3 เส้นทางคือ สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต-จตุจักร สายใต้ปิ่นเกล้า-สะพานปิ่นเกล้าฝั่งธนบุรี และสายใต้ปิ่นเกบ้า-สถานีรถไฟฟ้า BTS บางหว้า โดยให้บริการตั้งแต่ 05.30 - 20.30 น. ทั้งนี้การจัดระเบียบใน 15 วัน มีบริการรถ shuttle bus ทุกเส้นทาง 4,810 เที่ยว ผู้โดยสารจำนวน 67,990 คน
ส่วนกรณีรถตู้โดยสารที่ฉวยโอกาสแอบรับส่งผู้โดยสารที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขณะนี้พบแล้ว 26 คัน จะมีมาตรการลงโทษพนักงานขับรถโดยปรับ 5,000 ถึง 20,000 บาทผู้ประกอบการ 50,000 บาทและหากพบกระทำความผิดซ้ำซากจะพิจารณาเพิกถอนรถออกจากบัญชีประกอบการและเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการเดินรถ
ด้านพันเอกสมบัติ ธัญญะวัน เสนาธิการ กองพลทหารม้าที่2รักษาพระองค์ กล่าวว่า การจัดระเบียบโดยย้ายสถานีจอดรถนั้น เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบคุณภาพรถได้อย่างเต็มที่ เพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชน เนื่องจากแต่ละสถานีจะอยู่ใกล้หน่วยงานผู้ดูแล และลดปัญหาผู้มีอิทธิในพื้นที่ ซึ่งเมื่อย้ายมายัง 3 สถานีนี้ ก็สามารถควบคุมได้ โดยคาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้จะกำจัดปัญหาผู้มีอิทธิพลให้หมดไปได้ และแก้ปัญหาการจราจรโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้จะถึง ก็ได้เตรียมความพร้อมขั้นสูงสุดเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่จะเดินทางกลับบ้าน ส่วนการปรับลดค่าโดยสาร เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงสถานีนั้น เป็นมาตรการในแผนระยะที่ 2 แต่ในขณะนี้ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องของการจัดระเบียบและความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก ทั้งนี้หากประชาชน มีข้อร้องเรียนสามารถแจ้งมาได้ ที่กรมการขนส่งทางบก 1584 หรือ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) 1490