เอเอฟพีรายงานว่า สหรัฐฯเปิดคูหาเลือกตั้งแล้วเมื่อเวลา 06.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้หรือ 18.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย ผู้ใช้สิทธิ์รายแรกๆได้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งแล้วในการเลือกตั้งที่ทุกคนรอมานานว่าจะเลือกใครระหว่างนางฮิลลารี คลินตันกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ใครจะได้เป็น ประธานาธิบดีคนที่ 45 แล้วในวันนี้ เริ่มต้นการใช้ สิทธิ์เลือกตั้งใน 9 รัฐทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯคือ รัฐคอนเนตทิคัต,อินดีแอนา,เคนทักกี,เมน,นิวแฮมเชอร์,นิวเจอร์ซี, นิวยอร์ก,เวอร์มอนต์และรัฐเวอร์จิเนีย เป็นรัฐในลำดับต้นๆที่เปิดคูหาเลือกตั้งให้ประชาชนใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส่วนรัฐที่เหลือจะทยอยเปิดเป็นลำดับตลอดทั้งวันนี้จนครบทุกรัฐ/18.42 น.
ประชาชนในรัฐต่างๆทั้ง 50 รัฐและกรุงวอชิงตันดีซี ซึ่งมีโซนเวลาที่ต่างกันจะทยอยไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งไปจนครบทุกรัฐตลอดทั้งวันนี้ แต่ไม่ใช่คะแนนป็อปปูลาร์โหวตเป็นตัวชี้ขาด ผลชี้ขาดแพ้ชนะจะอยู่ที่คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง ผู้ชนะจะต้องมีคะแนนเสียงอย่างน้อย 270 เสียงจากทั้งหมด 538 เสียง ชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะทยอยไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งไปจนปิดหีบเลือกตั้ง โดยปกติจะอยู่ระหว่างเวลา 19.00-20.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้
สำหรับผลคะแนนอย่างเป็นทางการคาดว่าจะทราบผลในเวลา 23.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้หรือราว 11.00 น.ตามเวลาวันพุธของประเทศไทย หรือหลังปิดหีบเลือกตั้งสุดท้ายในฝั่งตะวันตกของประเทศ หรืออาจจะช้ากว่านั้นเล็กน้อยราว 15 นาที
นอกจากนี้ ชาวอเมริกันยังใช้สิทธิ์เลือกตั้งสว.จำนวน 34 ที่นั่งจากทั้งหมด 100 ที่นั่งและเลือกสส.ทั้งหมด 435 ที่นั่ง พรรคเดโมแครตต้องการอีก 4 ที่นั่งเพื่อจะครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาและต้องการที่นั่งสส.อีก 30 ที่นั่งจึงจะครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฏร สำหรับผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีจะเข้าทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม 2560
อดีตทูตคนหนึ่งของญี่ปุ่นและนายชาติบ บาสรี อดีตรัฐมนตรีคลังอินโดนีเซียว่า ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ ทั้งนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันและนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ได้เปลี่ยนแปลงแนวทางที่บรรดาประเทศในเอเชียมองเรื่องทิศทางความสัมพันธ์กับสหรัฐฯในอนาคต ระบุว่า ประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียหวั่นวิตกนโยบายการปกป้องตนเองทางการค้าเนื่องจากการส่งออกคิดเป็นสัดส่วนหนึ่งในสี่ของจีดีพีของเอเชียและหนึ่งในห้าจะถูกส่งออกไปยังสหรัฐฯด้านนายคันติ บัจไป ศาสตราจารย์ด้านเอเชียศึกษา สถาบันนโยบายสาธารณะลี กวน ยูของสิงคโปร์กล่าวว่าหากสหรัฐฯถอนตัวออกจากข้อตกลงทีพีพี ย่อมจะส่งผลให้จีนมีอิทธิพลในเอเชียมากยิ่งขึ้น ระบุว่าที่ผ่านมาการที่สหรัฐฯวิจารณ์ปัญหาภายในประเทศไทย ฟิลิปปินส์และมาเลเซีย ทำให้ประเทศเหล่านั้นตีตัวออกห่างและเริ่มใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น ระบุว่าหากสหรัฐฯถอนตัวออกจากข้อตกลงการค้าทีพีพีย่อมจะทำให้ประเทศจีนมีอิทธิพลเพิ่มขึ้นในด้านภูมิศาสตร์การเมืองในเอเชีย