สำนักข่าวอิศรา ได้รายงานข่าว จดหมายของ วิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮน์เน็คกี (William Ellwood Heinecke) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า “บิล ไฮเนคกี้” นักธุรกิจสัญชาติไทย เชื้อสายอเมริกัน ผู้ก่อตั้งเครือบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล หนึ่งในกลุ่มบริษัทด้านการบริการที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แปลโดย ดร.วรัชญ์ ครุจิต แห่งสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
ในจดหมายฉบับนี้ สื่อตรงถึงจดหมายเปิดผนึกถึงทูตานุทูตในประเทศไทยและสื่อต่างประเทศที่บิดเบือนรายงานข่าวสถานการณ์ในประเทศไทย ลงวันที่ 10 มิ.ย.2557 ระบุถึงเหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ในฐานะที่คนที่ ได้รับการโอนสัญชาติเป็นพลเมืองไทย และอาศัยอยู่ในประเทศไทยมามากกว่า 51 ปีโดยที่ยังไม่ลืมรากเหง้าของผมในโลกตะวันตก ผมจึงรู้สึกว่าผมมีมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้และปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น ย้ำว่า สถานการณ์ทางสังคมและการเมืองที่ติดขัดอย่างที่ประเทศไทยประสบมาใน 6 เดือนนี้ ทำให้รัฐบาลและการเมืองพิการ พร้อมทั้งมีความรุนแรงและผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นทุกทีจนทำให้ทหารต้องตัดสินใจรัฐประหาร อาจเป็นเรื่องง่ายที่คนที่อยู่ห่างไกลจะมองว่าเหตุการณ์ในประเทศไทยเป็นการปะทะกันระหว่างผู้ “สนับสนุน” และ “ต่อต้าน” ประชาธิปไตย แต่นั่นไม่ถูกต้อง มีน้อยคนในทั้งสองฝ่ายการเมืองที่ต่อต้านแนวคิดระบอบประชาธิปไตยที่ทำงานได้จริง เชื่อว่าทั้งกองทัพไทย พรรคการเมืองไทย และประชาชนไทย ก็ต้องการประชาธิปไตย ที่ทำงานได้และยั่งยืน และเป็นสะท้อนเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนไทย
สำหรับชาวต่างชาติจำนวนมากในกรุงเทพ หรือนักท่องเที่ยวหลายล้านคนที่เพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้ว สถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ก่อให้เกิดความกังวลในการเดินทางเลย แต่ประเด็นนี้ก็ไม่มีการพูดถึงในสื่อต่างชาติหรือรวมอยู่ในคำเตือน ชีวิตในประเทศไทยยังดำเนินไปตามปกติ ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงต่อภาพในหัวของใครก็ตามที่รับชมช่องข่าวนานาชาติ
ประเทศไทยยังคงมีความสงบและยินดีต้อนรับชาวต่างชาติด้วยธรรมชาติและวัฒนธรรมที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ และโอกาสในการดำเนินธุรกิจยังคงเปิดกว้าง นี่คือข้อเท็จจริงที่ไม่ได้รับการสื่อสารโดยสื่อต่างชาติและสถานทูตต่าง ๆ
สำหรับวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮน์เน็คกี บริหาร ธุรกิจในเครือไมเนอร์ กรุ๊ป มีมากกว่า 30 บริษัทในเครือ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ร้านอาหาร โรงแรม แบรนด์แฟชั่น ฯลฯ เช่น โรงแรมโฟว์ซีซั่นส์, เซนต์ รีจิส, แมริออท ในประเทศไทย, เอลามิส (Elemis), เดอะ พิซซ่า คอมปะนี (The Pizza Company), สเวนเซ่นส์ (Swensen’s) ฯลฯ ขณะที่นิตยสารฟอร์บส์ไทยแลนด์ (Forbes Thailand) ฉบับเดือนมิถุนายน 2557 จัดอันดับให้ นายวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค เป็น มหาเศรษฐีเมืองไทยประจำปี 2557 ในอันดับที่ 23 มีมูลค่าทรัพย์สิน 35,854.50 ล้านบาท