นายวิษณุ เข่งสมุทร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า พบซากวาฬบรูด้าลอยเกยตื้นติดชายฝั่ง ด้านหลังเรือนจำทหารเรือ หมู่ที่ 8 ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ก่อนที่จะเดินทางไปตรวจสอบ โดยเรือกลุ่มอนุรักษ์ชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน ร่องน้ำตรวจหา กว่า 10 นาที จากนั้น ต้องเดินทางด้วยเท้าเข้าในป่าโกงกาง ระยะทาง 20 เมตร จึงพบซากวาฬบรูด้าเพศผู้ อายุประมาณ 5 - 8 ปี เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 15 วัน มีขนาดลำตัวยาว 10 เมตร น้ำหนักประมาณ 20 ตัน ส่วนสาเหตุการตายยังไม่สามารถระบุได้ชัด
ขณะที่ เจ้าหน้าที่กรมอนุรักษ์ทรัพย์ยากรธรรมชาติและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน จะเดินทางเข้ามาพิสูจน์ซากวาฬชนิดนี้ พร้อมทั้งนำชิ้นเนื้อและเศษเนื้อเยื้อไปวิจัยในห้องแลป พร้อมทั้งนำชิ้นกระดูกกลับไปศึกษาอีกครั้ง
นายวิษณุ กล่าวว่า จากการสำรวจบริเวณปากอ่าวไทยใกล้ จ.สมุทรปราการ และพื้นที่ติดต่อ มีฝูงวาฬบรูด้าจำนวน 50 ตัว คาดว่าตัวที่เกยตื้นนั้นน่าจะเป็นตัวที่กำลังโตเจริญพันธุ์ และเป็นตัวที่ 2 ในรอบ 7 ปี ที่เกยชายฝั่งตาย ส่วนสาเหตุการตายนั้นสันนิฐานว่า น่าจะหลงฝูงมาเกยตื้น หรือกินอาหารที่เป็นพิษเข้าไปจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้ คงต้องรอผลการผ่าชันสูจน์ของเจ้าหน้าที่ต่อไป
ด้านดร.กาญจนา อดุลยานุโกศล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน เปิดเผยกับ จส. 100 ว่า กรณี วาฬตายได้เกิดขึ้นที่จ.นราธิวาสเกิดเหตุเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่า วาฬลิโซ่ต่เป็นลูกวาฬ ตัวผู้ สาเหตุที่ตายเพราะป่วย ส่วนวาฬครูเวียร์ เป็นปลาที่อยู่ในน้ำลึก แต่มาตายเกยตื้นที่อันดามัน จากการตรวจสอบเบื้องต้นของสัตวแพทย์พบว่า วาฬมีอาการป่วยหนัก ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา เพิ่งพบเป็นตัวที่ 2 จากนี้ไปจะมีการนำทีมสัตวแพทย์เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนปลาวาฬที่สมุทรปราการที่ตายเกยตื้นนั้น ตอนนี้กำลังผ่าพิสูจน์อีกครั้ง คาดว่าอีก 2-3 วันจึงจะได้ข้อสรุป
CR:ภาพ จาก FB กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง