ศาลอาญาตัดสิน “เมธี” หมิ่นประมาท"จตุพร" อมเงินบริจาค ให้รอลงอาญา2ปี

ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเมธี อมรวุฒิกุล อดีตแนวร่วมกลุ่มนปช.และพวกรวม 7 คน ประกอบด้วย บริษัท หนังสือพิมพ์แนวหน้า จำกัด ,นายโชคชัย สุมน ,นายวัชระ เพชรทอง สส.ประชาธิปัตย์ ,บริษัท เอ็นเอสที นิวส์ จำกัด ,บริษัท เอเอสทีวีผู้จัดการ จำกัด และนายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ผู้จัดการฯ  ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2553 นายเมธี ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ขณะถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษควบคุมตัวมาสอบสวนและกันตัวเป็นพยานในคดีก่อการร้ายในทำนองว่า นายจตุพร ทุจริตเงินบริจาคของคนเสื้อแดง จำนวน 68 ล้านบาท พร้อมกล่าวหาว่านายจตุพร มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับหญิงสาวบนชายหาดพัทยา และระบุว่านายจตุพร ได้โทรศัพท์ขู่ฆ่าจำเลยด้วย

โดยวันนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายเมธี จำเลยที่1 แถลงต่อสื่อมวลชนโดยไม่มีพยานหลักฐานประกอบ ทำให้รับฟังเป็นความจริงไม่ได้ จึงพิพากษามีความผิดจำคุก 2 ปี ปรับ 100,000 บ. ตามความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 1 ปี 4 เดือน ปรับ 66,666 บาท รอลงอาญา 2 ปี และให้จำเลยที่ 1 นำคำพิพากษาไปเผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์ไทยรัฐและเดลินิวส์ฉบับละ 3 ครั้ง ส่วนจำเลยที่ 2-7 ที่เป็นสื่อมวลชน ศาลเห็นว่า เป็นการเผยแพร่คำแถลงของนายเมธี แม้มีบางส่วนอาจเติมแต่งตามการวิเคราะห์ข่าว แต่ไม่ถึงกับเป็นการใส่ความหรือหมิ่นประมาท จึงพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 2-7 

สำหรับนายเมธี ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังฟังคำพิพากษาว่า ไม่ได้ยื่นขอประกันตัว เนื่องจากโทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี อีกทั้งขณะนี้ต้องอยู่ในความดูแลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะเป็นพยานปากสำคัญในคดีการก่อร้ายเมื่อปี 2553 โดยยอมรับที่ผ่านมาเคยถูกข่มขู่จากผู้ไม่หวังดี ทั้งการกรีดรถและเจาะยาง เพื่อพยายามล็อบบี้คำให้การ แต่ก็ได้ทางดีเอสไอเป็นผู้ดูแลจัดให้อยู่ในเซฟเฮาส์นานถึง 4 ปี โดยเพิ่งมีโอกาสได้กลับบ้านล่าสุดเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งหลังจากมาฟังคำพิพากษาในวันนี้ ก็ต้องกลับไปอยู่ในความดูแลของดีเอสไอ จนกว่าคดีความจะสิ้นสุด

 

.....ผสข.อภิสุข