+++การอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัด จังหวัดละ 750 คน ที่จะเดินทางเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ได้ย้ำให้ทุกจังหวัดกระจายประชาชนที่จะมาร่วมถวายสักการะพระบรมศพ ให้ครบทุกอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน รวมถึงการจัดยานพาหนะให้รถยนต์มีสภาพดี และตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)มีมติให้ประชาชนทั่วไปออกทุกข์ หลังครบกำหนด 30 วัน จะเน้นย้ำให้ผู้ว่าฯ ควบคุมการเปิด-ปิดสถานบันเทิงให้เป็นไปตามกฎหมาย รวมทั้งงานประเพณีท้องถิ่นสามารถจัดได้ตามปกติ แต่ต้องดูแลให้อยู่ในความเหมาะสม
+++สภาพอากาศ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลาก น้ำเอ่อล้นตลิ่ง และดินสไลด์ใน ทำให้เกิดอุทกภัย 8 จังหวัด 20 อำเภอ 116 ตำบล 571 หมู่บ้าน ได้แก่ พิจิตร นครสวรรค์ อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎร์ธานี ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือเริ่มคลี่คลาย ส่วนพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ระดับน้ำทรงตัวและยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ขณะที่ ภาคใต้ ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา และภูเก็ต
+++จากเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงกำลังเร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดจากพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่รวบรวมได้ มั่นใจว่าจะสามารถจับกุมได้ เนื่องจากการก่อเหตุในระยะหลังได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี จึงทำให้รู้เบาะแสนำไปสู่การจับกุมได้ในที่สุด รัฐบาลขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และไม่ตื่นตระหนกกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะอาจเข้าทางของผู้ก่อความไม่สงบ นายกฯ กำชับให้หน่วยงานที่รับผิดชอบให้ความช่วยเหลือดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ รวมถึงผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งสั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่และสังคมโดยรวม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชน
+++จากสถิติเหตุการณ์ความรุนแรงมักเกิดขึ้นในช่วงเดือนต.ค. ซึ่งฝ่ายความมั่นคงได้เฝ้าระวังและควบคุมเป็นพิเศษ จึงทำให้ความเสียหายเกิดขึ้นเฉพาะจุด ไม่ลุกลามบานปลายขยายไปในวงกว้าง เจ้าหน้าที่จะเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ โดยขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือและเป็นหูเป็นตา แจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับทางราชการ จากการวิเคราะห์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประเมินว่า เหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะไม่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งคณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาล (คปต.)ส่วนหน้า ลงไปขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ เพราะทุกฝ่ายให้การตอบรับเป็นอย่างดี และคณะได้วางแผนและทำงานตอบสนองความต้องการของคนในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว
+++การดำเนินคดีกับพระเทพญาณมหามุนี (พระธัมมชโย) ในข้อหารับของโจรและฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น คดีนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาสั่งคดีของอัยการแล้ว และสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ได้ระบุว่า กำหนดจะสั่งคดีในวันที่ 7 พ.ย.นี้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องกิจการพระพุทธศาสนา สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ อัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา จำนวน 12คน ไปแล้วในคดีฉ้อโกงประชาชน ผู้ฝากเงิน สหกรณ์คลองจั่น ซึ่งเป็นคดีมูลฐานความผิดของ คดีรับของโจร และฟอกเงิน ของพระธัมมชโย ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษคนใหม่ที่เข้ารับตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2559 น่าจะมีการสั่งคดีพระธัมมชโยได้ในวันดังกล่าวเพื่อจะให้ความเป็นธรรมกับประชาชนผู้ฝากเงินสหกรณ์คลองจั่น และประชาชนทั้งประเทศที่รอคอยและติดตามคดีพระธัมมชโย ด้วยความเป็นห่วงเกรงว่ากฎหมายจะบังคับใช้ไม่ได้ เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้มีเครือข่ายอิทธิพลที่ใหญ่มาก ส่วนที่กระทรวงยุติธรรม ได้โยกย้ายข้าราชการ ระดับรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) จำนวน 2 คน ไปยังสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้
+++หุ้นไทย ปิดตลาดลดลง 5.57 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,493.08 จุด มูลค่าซื้อขาย 54,419.22 ล้านบาท
+++ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปรับตัวลดลง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. นอกจากนั้นนักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนด้านการเมืองของสหรัฐฯ ลดลง 126.99 จุด ปิดวันนี้ที่ 22,683.51 จุด ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วงร้อยละ 0.25-0.50 ในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
+++นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คาดว่าผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จะออกสู่ตลาดมากระหว่างเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 2559 รวมประมาณ 2.28 ล้านตัน โดยเดือนนี้ คาดว่า ผลผลิตจะออกสู่ตลาด ปริมาณ 886,000 ตัน ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ เชิญสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยและสมาคมการค้าพืชไร่ หารือแนวทางการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกต่ำ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากบางโรงงานรับซื้อปริมาณลดลง ซึ่งผลการหารือปรากฏว่าทุกโรงงาน ยินดีให้ความร่วมมือในการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในจังหวัดต่าง ๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญที่ผลผลิตกำลังออกสู่ตลาดเดือนพฤศจิกายนนี้ เช่น จังหวัดน่าน ตาก เลย เชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์ เป็นต้น สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยรับที่จะบริหารจัดการให้มีการรับซื้อรวมไม่น้อยกว่า 800,000 ตันในเดือนนี้ และจะพยายามแก้ไขปัญหาการติดคิวหน้าโรงงานอาหารสัตว์ให้ดีขึ้น ส่งผลให้ผู้รวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สามารถรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรเพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิตอาหารสัตว์ได้เพิ่มขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์ได้เน้นย้ำให้การรับซื้อจากชาวไร่ต้องมีราคาที่เป็นธรรม
+++อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์คาดว่าจากแนวทางการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จะช่วยดูดซับผลผลิตจากเกษตรกรได้อย่างรวดเร็ว และช่วยสร้างเสถียรภาพราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ กรมการค้าภายใน จะติดตามการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของโรงงานอาหารสัตว์และพ่อค้าคนกลางอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังไม่มีแนวโน้มดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ หรือผู้ประกอบการไม่ให้ความร่วมมือ
+++นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะพิจารณาเสนอมาตรการที่เข้มงวดเพิ่มเติม เช่น การกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายในประเทศ หรือการปรับขึ้นภาษีนำเข้าข้าวสาลี
+++ตำรวจอินโดนีเซีย จับกุมลูกเรือ 1 คนจากเหตุสปีดโบ้ทหรือเรือเร็วล่มหลังออกจากรัฐยะโฮร์ของมาเลเซียมุ่งหน้าไปยังเกาะบาตัมของอินโดนีเซีย ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงค้นหาผู้สูญหายอยู่กว่า 40 คน โฆษกตำรวจหมู่เกาะรีเยา ซึ่งมีเกาะบาตัมรวมอยู่ด้วย เปิดเผยว่า จับกุมลูกเรือได้หนึ่งคน และกำลังตามหากัปตันเรือที่หลบหนีไปหลังเกิดเหตุ ส่วนลูกเรืออีกคนยังไม่ทราบชะตากรรม ทั้งหมดฝ่าฝืนกฎหมายการเดินเรือและขนส่งคนอย่างผิดกฎหมาย ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นแรงงานชาวอินโดนีเซียที่เดินทางกลับบ้านหลังจากอยู่ในมาเลเซียนานกว่าที่ได้รับอนุญาต และว่าเรือบรรทุกคนมากเกินไป
+++เรือมีผู้โดยสาร มากถึง 98 คน คลื่นลมแรงทำให้เรือชนกับแนวปะการังและอับปาง มีผู้เสียชีวิต 18 คน และได้รับความช่วยเหลือขึ้นจากน้ำ 39 คน ด้านสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ 280 คนเริ่มการค้นหาผู้สูญหาย 44 คนอีกครั้งในเช้าวันนี้ หลังจากที่ต้องระงับไปเมื่อเย็นวานนี้ และว่าเรือไม่มีรายชื่อผู้โดยสาร ทำให้ยากจะทราบจำนวนผู้โดยสารที่แท้จริงได้
แฟ้มภาพ