หลังกลุ่มคนร้ายลอบก่อเหตุวางระเบิดแสวงเครื่อง ทำลายเสาไฟฟ้า ทำให้ไฟดับหลายอำเภอ และใช้อาวุธปืนยิงป่วนในพื้นที่ จ.ปัตตานี จ.ยะลา จ.นราธิวาส และ จ.สงขลา เมื่อคืนนี้หลายจุดพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่าเหตุทั้งหมดเกิดขึ้น 12 จุด มีผู้บาดเจ็บ 5 คน และเสียชีวิต 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ทหาร เสียชีวิตในพื้นที่ปัตตานี และเป็นประชาชนในพื้นที่จ.สงขลา โดยทั้งหมดเป็นเหตุการณ์ที่ผสมผสานกันระหว่างการใช้อาวุธปืน และเพลิงไหม้ เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อเป็นการตอบโต้การดำเนินการของภาครัฐ พ.ต.อ. กฤษณะ ระบุว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการใน 3 มิติ คือ ด้านการป้องกันโดยให้ตำรวจในพื้นที่ไปสืบสวนหาข่าว, ด้านการปราบปราม ได้สั่งให้ตรวจสอบผู้ต้องหาที่มีหมายจับค้างเก่า ทั้งหมายจับตามพ.ร.ก. ฉุกเฉิน และ ป. วิอาญาทั่วไป ตามกฎหมายประมวลวิธีพิจารณาอาญา และสุดท้าย คือ การกำชับให้มีการประชาสัมพันธ์ ให้ตำรวจลงพื้นที่แสวงหาความร่วมมือกับประชาชน ในการรับแจ้งเหตุต่างๆ และการรับข้อมูลข่าวสารที่จะเป็นประโยชน์ต่อแผนการป้องกันในอนาคต ส่วนจะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการหาข่าวหรือไม่ ก็ต้องปรับไปตามบริบทที่เกิดขึ้น และจะเชื่อมโยงกับคณะรัฐมนตรีส่วนหน้า ที่รัฐบาลตั้งขึ้นมาใหม่หรือไม่ ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง โดยสถิติการก่อเหตุในปีงบประมาณที่ผ่านมา ลดลงไปกว่าร้อยละ 20 โดยเฉพาะเดือนตุลาคม ลดลงไปกว่าร้อยละ 30 หากเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว เหตุการณ์ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ และมองว่า เมื่อได้โอกาสกลุ่มคนร้าย จะชิงลงมือตลอดเวลา และส่วนใหญ่จะมุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่
ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข