นายซัมบูดี กัสเดียน หัวหน้าตำรวจเกาะบาตัมของอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศสิงคโปร์ เปิดเผยว่า เกิดอุบัติเหตุเรือสปีดโบ๊ทลำหนึ่ง บรรทุกแรงงานชาวอินโดนีเซีย 93 คน เดินทางกลับมาจากทำงานที่ประเทศมาเลเซีย แต่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนในทะเล ทำให้เรือจมนอกชายฝั่งเกาะบาตัม เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.ของเช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่น แต่ทีมกู้ภัยสามารถช่วยเหลือผู้โดยสารบนเรือขึ้นมาจากน้ำได้ 39 คน แต่มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 20 ศพ ในจำนวนนี้มีเด็กอายุ 5 ขวบรวมอยู่ด้วย 1 คน ศพผู้เสียชีวิตถูกนำไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลท้องถิ่นแล้ว ตำรวจสงสัยว่า การเดินทางด้วยเรือสปีดโบ๊ทอาจผิดกฎหมาย ประกอบกับแรงงานเหล่านี้ไม่มีเอกสารการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อาจเป็นการลักลอบเข้าไปทำงาน เพราะได้ค่าตอบแทนสูง หัวหน้าตำรวจเกาะบาตัม ยืนยันว่า หญิงชาวอินโดนีเซียซึ่งเชื่อว่าเป็นธุระจัดหาแรงงานผิดกฎหมายเหล่านี้ ถูกจับกุมตัวไว้ได้แล้ว ขณะพยายามที่จะหลบหนีออกจากเกาะบาตัมไปยังประเทศสิงคโปร์
ส่วนนายฮาร์ยันโต วัย 51 ปี หนึ่งในผู้รอดชีวิต เปิดเผยว่า เรือล่มเพราะเผชิญคลื่นลมแรงและพายุฝนพัดกระหน่ำนานเกือบ 2 ชั่วโมง หลังออกเดินทางจากเมืองยะโฮร์ บาห์รูในประเทศมาเลเซีย อีกทั้งยังบรรทุกผู้โดยสารมามากเกินอัตรา การเดินทางด้วยเรือสปีดโบ๊ทและเรือโดยสารข้ามฟากเป็นการสัญจรโดยปกติในอินโดนีเซีย เพราะเป็นประเทศหมู่เกาะ แต่ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้งเพราะขาดการตรวจสอบด้านมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
CR:Xinhua, MANILA BULLETIN