การดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ที่เดินทางมาถวายบังคมพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้วางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 3,000-3,500 คนต่อวัน เบื้องต้นยังยืนยันว่าไม่ต้องเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ ส่วนในเรื่องการตรวจยึดอาวุธในจุดคัดกรอง ส่วนใหญ่จะพบคัตเตอร์ กรรไกร สนับมือ ซึ่งประชาชนบางส่วนอาจจะเผลอติดเข้ามา โดยตัวเองได้เน้นย้ำให้พยายามคัดกรองให้มากที่สุด และให้ส่งสายตรวจคอยตรวจตราดูแลความเรียบร้อยให้รอบพื้นที
ด้านพล.ต.ต. วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า ในวันที่ 29 ตุลาคม 2559 ซึ่งเป็นวันแรกที่มีการเปิดให้ประชาชน เข้าถวายบังคมพระบรมศพ มีประชาชนเดินผ่านจุดคัดกรองประมาณ 190,000 คน และในวันที่ 30 ตุลาคม 2559 มีประมาณ 150,000 คน โดยพรุ่งนี้จะเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าชมภายในพระบรมมหาราชวังเป็นวันแรก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินเข้าในประตูวิเศษไชยศรี และจะใช้ประชาชนที่จะเข้าถวายบังคมพระบรมศพ เดินเข้าทางฝั่งประตูมณีนพรัตน์แทน เนื่องจากบริเวณประตูวิเศษไชยศรี จะมีจุดคัดกรองการแต่งกายของนักท่องเที่ยว โดยเส้นทางการเข้าชมสถานที่ในพระบรมมหาราชวังจะไม่ทับกับเส้นทางที่ประชาชนจะเข้าถวายบังคมพระบรมศพ
พล.ต.ต. วิชาญญ์วัชร์ ระบุว่า เมื่อวานนี้ได้มีการประชุมกับการท่องเที่ยว ซึ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในเวลา 09.00-15.30 น. และในวันนี้จะมีการประชุมกับผู้ประกอบการการท่องเที่ยวในเวลา 14.00 น. ส่วนการจัดจุดจอดรถบัสของนักท่องเที่ยว จะจอดบริเวณถนนราชดำเนิน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะเดินมาทางโรงเเรมรัตนโกสินทร์ ผ่านทางคลองหลอด และเข้ามายังสนามหลวง ส่วนจุดจอดรถตู้ของนักท่องเที่ยว จะให้จอดในบริเวณสะพานช้างโรงสี หน้ากระทรวงมหาดไทย โดยจะให้ประชาชนเดินเข้ามาทางถนนกัลยาไมตรี และได้เน้นย้ำกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวเอาไว้ด้วยว่า จะต้องให้ประชาชนมายืนรอรถให้เรียบร้อยก่อน อย่ามาจอดรถรอ เพราะจะเป็นการกีดขวางเส้นทางการจราจร
ส่วนกรณีที่มีประชาชนบางส่วนนำของแจกมาวางจำหน่ายรอบสนามหลวง พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ ระบุว่า เป็นเรื่องที่ไม่สามารถดำเนินคดีได้ เนื่องจากเป็นของแจก เพียงแต่ว่าพฤติกรรมนี้ไม่เหมาะสม หากเจอก็จะตักเตือนเท่านั้น สำหรับคนเร่ร่อน ทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะเป็นผู้ดูแลในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามส่วนตัวมองว่ายังไม่สามารถจัดการกับคนเร่ร่อนที่เข้ามาในพื้นที่ได้ เนื่องจากบริเวณสนามหลวงมีอาหารการกินและมีของแจกจำนวนมาก ก็ต้องเป็นเรื่องที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ จะต้องเข้าไปพูดคุยและชวนไปอยู่ในบ้านพักของผู้เร่ร่อนที่จัดไว้ให้