นายกรัฐมนตรี มัลคอล์ม เทิร์นบูล แห่งออสเตรเลียเปิดเผยว่า ในการประชุมรัฐสภาครั้งต่อไป จะเสนอคำสั่งห้ามผู้ลี้ภัยหรือผู้แสวงหาที่พักพิงที่ลักลอบเข้าออสเตรเลียโดยผิดกฎหมายทางเรือ เดินทางเข้าออสเตรเลียตลอดชีวิต เนื่องจากการลักลอบเข้าประเทศถือเป็นปัญหาอาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งสร้างรายได้ให้แก่ผู้ทำผิดกฎหมายเป็นจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ โดยคาดว่า ข้อเสนอใหม่นี้จะครอบคลุมย้อนหลังไปถึงบุคคลที่ถูกส่งตัวไปอยู่ที่ค่ายบนเกาะโนรู กลางมหาสมุทรแปซิฟิก และเกาะมานัส ในปาปัวนิวกินี ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2556 เป็นต้นมา รวมทั้งบุคคลที่ถูกส่งตัวกลับประเทศด้วย ยกเว้นเด็ก
ทั้งนี้ ปัจจุบัน เกาะโนรูกลายเป็นสถานที่รองรับผู้ลี้ภัยจำนวน 400 คน ขณะที่เกาะมานัสรองรับ 800 คน แต่ออสเตรเลียได้ตกลงที่จะปิดเกาะมานัสแล้ว เนื่องจากศาลปาปัวนิวกินีวินิจฉัยว่า การควบคุมกลุ่มบุคคลไม่ชอบด้วยกฎหมายและขัดรัฐธรรมนูญ ขณะที่กลุ่มปกป้องสิทธิระบุว่า มีการละเมิดสิทธิในค่ายอย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตาม นายเดวิด แมนน์ ทนายความศูนย์กฎหมายสำหรับผู้ลี้ภัยและผู้อพยพเห็นว่า จะเป็นการลงโทษผู้ลี้ภัยตัวจริง โดยในห้วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ออสเตรเลียรับผู้ลี้ภัยด้านมนุษยธรรมเพิ่มขึ้นจาก 13,750 คน เป็น 18,750 คน และตกลงที่จะรับผู้พลัดถิ่นจากซีเรียและอิรักจำนวน 12,000 คน
...
(1245 F171)