ประธานาธิบดีรีเจป ไตยิป แอร์โดแกน ของตุรกี เปิดเผยว่า รัฐบาลจะขอให้รัฐสภาพิจารณาการนำโทษประหารชีวิตกลับมาบังคับใช้ใหม่ในเร็วๆ นี้ เพื่อลงโทษผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความพยายามก่อรัฐประหารที่ล้มเหลวเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม โดยเชื่อมั่นว่า รัฐสภาจะผ่านความเห็นชอบ ก่อนส่งต่อให้ประธานาธิบดีให้สัตยาบันมีผลบังคับใช้ หลังจากตุรกีต้องยกเลิกบทลงโทษประหารชีวิตไปเมื่อปี 2547 ในฐานะเป็นเงื่อนไขส่วนหนึ่งในการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู นอกจากนี้ ผู้นำตุรกียังประกาศท้าทายให้นายเฟตตุลเลาะฮ์ กูเลน ผู้ถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังความพยายามก่อรัฐประหาร และลี้ภัยอยู่ในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐฯ เดินทางกลับตุรกี อย่างไรก็ดี ความพยายามของผู้นำตุรกีในการผลักดันให้นำโทษประหารชีวิตกลับมาใช้ เพื่อแก้แค้นผู้สมคบคิดวางแผนสร้างความตกตะลึงให้แก่ผู้นำอียูและการเดินหน้ากวาดล้างจับกุมและปลดกลุ่มผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งในวงการทหาร ตุลาการ ข้าราชการ และการศึกษาออกจากตำแหน่งกว่า 35,000 คนได้กลายเป็นปัจจัยเชิงลบที่ผลักให้ความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีกับอียูตึงเครียด โดยอียูขอให้ตุรกีกระทำสิ่งที่สอดคล้องกับหลักนิติธรรม ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับตุรกีนั้น รมว.ยุติธรรมของตุรกีระบุว่า ไม่เป็นเช่นเก่าก่อน เนื่องจากสหรัฐฯ ยังไม่ยินยอมส่งมอบตัวนายกูเลน ซึ่งมีกลุ่มเคลื่อนไหวที่ยังมีอิทธิพลสูงอยู่ในวงการสื่อสารมวลชน ตำรวจ และตุลาการของตุรกี
**
(0835 F171)