รบ. พร้อมปิดเซิร์ฟเวอร์ไม่เหมาะสม/สศค.คงประมาณการณ์ศก.ไทยปีนี้ที่ 3.3%

+++การดูแลประชาชนในต่างจังหวัดที่จะเดินทางเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ พระที่นั่งดุสิตมหาประสาท พระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. เป็นต้นไป นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่า กระทรวงมหาดไทยไม่ได้จำกัดสิทธิบุคคลใด แต่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีสิทธิ ได้ย้ำกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่าอย่าคัดเลือกเฉพาะข้าราชการหรือญาติพี่น้องตัวเอง หากสำนักพระราชวัง ขยายวันให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพเพิ่มขึ้น กระทรวงมหาดไทยก็จะขยายเวลาเช่นเดียวกัน ยืนยันว่า ประชาชนที่เดินมาทางมากับกระทรวงมหาดไทย จะไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดๆ เพราะเมื่อมาถึงสนามหลวงทั้งหมดก็จะต้องเข้าคิวรับบัตรเหมือนประชาชนทั่วไป เจ้าหน้าที่ต้องกำชับประชาชนเรื่องการแต่งกาย โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องสวมกระโปรงหรือผ้าถุงยาวเท่านั้น ส่วนคนที่มีโรคประจำตัวก็ต้องพกยามาด้วย อย่างไรก็ตามบนรถบัสที่นำประชาชนมายังสนามหลวงจะมีเจ้าหน้าที่แพทย์คอยดูแลเรื่องสุขภาพ

+++กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดประชาชนออกเป็น 4 ภาค รวม วันละ 3,000 คน เฉลี่ยจังหวัดละ 750 คน เรียงตามอักษร ก. – ฮ. รอบแรก วันที่ 29 ต.ค. ประกอบด้วย จ.กระบี่ จ.กำแพงเพชร จ.กาฬสินธุ์ และ จ.กาญจนบุรี  สำหรับขบวนรถของแต่ละจังหวัดจะมี 15 คัน เบื้องต้นมีการกำหนดจุดพักคอยไว้ 2 จุดสำคัญ คือ ภาคใต้ จะพักคอยที่พุทธมณฑลสาย 4 ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะพักคอยที่อิมแพ็คเมืองทองธานี เพื่อรอการประสานให้ทยอยเข้ามาทีละขบวนเพื่อป้องกันปัญหาการจราจรติดขัด เบื้องต้น สำนักพระราชวังแจ้งว่าจะเปิดให้ประชาชนเข้าไปถวายบังคับพระบรมศพ ได้ประมาณวันละ  8,000 – 10,000 คน ซึ่งในส่วนของกระทรวงมหาดไทยประเมินว่า 100 วันแรกที่เปิดโอกาสให้ประชาชนต่างจังหวัดเข้ามา จะมีจำนวนกว่า 225,000 คน 

+++พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึง กรณีที่มีการจำหน่ายสินค้าที่ไม่เหมาะสม โดยนำพระบรมฉายาลักษณ์มาประกอบ และจำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์ ว่า หากพบว่ามีการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้น สามารถแจ้งมาที่รัฐบาลที่หมายเลขโทรศัพท์ 1212 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะรีบเข้าไปตรวจสอบ หากพบว่าผิดจริงจะสั่งปิดเว็บไซต์ทันที หากเว็บไซต์ดังกล่าวจดทะเบียนภายในประเทศ และหากจดทะเบียนที่ต่างประเทศก็จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการถอดสินค้าออก

+++พล.อ.อ.ประจิน กล่าวถึง การควบคุมการโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมผ่านทางโซเชียลมีเดีย ได้เชิญตัวแทนจาก google , youtube  และ line มาพูดคุยแล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับดี โดยจะมีการจัดเจ้าหน้าที่มาทำงานร่วมกันในการตรวจสอบ ควบคุมเนื้อหาข้อความที่ไม่เหมาะสม ซึ่งมาตรการดังกล่าวไม่ได้ทำเฉพาะช่วงเวลานี้ แต่จะทำอย่างต่อเนื่องและจะเพิ่มความเข้มงวดขึ้น  นอกจากนี้ จะมีการปรับปรุงโครงสร้างระบบการตรวจสอบ โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาควบคุมเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหมิ่นสถาบัน ขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ปล่อยปละละเลย ที่ผ่านมาสั่งปิดเว็บไซต์ไปแล้ว 200 URL และกำลังจะสั่งปิดอีกว่า 100 URL

+++นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.ได้คงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2559 อยู่ที่ร้อยละ 3.3 ส่วนปี 2560 คาดว่าจะขยายตัวได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 3.4 เนื่องจากได้รับแรงส่งของการใช้จ่ายภาครัฐที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมใหม่ ๆ ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 เช่น โครงการรถไฟทางคู่ และรถไฟฟ้าในเขตเมือง แต่หากภาคเอกชนเริ่มลงทุนตามในปีหน้า จะเป็นแรงส่งที่ช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

+++อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ปริมาณการส่งออกสินค้าของไทยในปีนี้ ยังคงมีข้อจำกัดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า คาดว่าจะขยายตัวลบร้อยละ 0.5 จากเดิมที่คาดไว้ลบร้อยละ 1.9

+++ดัชนีหุ้นไทย ปิดตลาดที่1,494.44 จุด ลดลง 3.92 จุด มูลค่าซื้อขาย 54,926.42 ล้านบาท  ตลาดหุ้นไทยอยู่ในภาวะซบเซาหรืออยู่ในช่วงปรับฐานหลังจากที่ก่อนหน้านี้ขึ้นมาแรงมากและตลาดหุ้นกำลังรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามาสนับสนุน นักลงทุน อยู่ระหว่างรอติดตามการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ในวันที่ 1-2 พ.ย.นี้เกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ย

+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดเพิ่มขึ้น หลังจากที่มีรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษ ขยายตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 3/2559 เพิ่มขึ้น  109.99 จุด ปิดที่ 17,446.41 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดลดลง 177.54 จุด ปิดที่ 22,954.81 จุด ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนยักษ์ใหญ่เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง นอกจากนั้นยังได้รับแรงกดดันจากยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯที่ปรับตัวลดลง

+++สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีน รายงานอ้างผลสำรวจความเห็นประชาชนของสำนักโพลเรียลเมเตอร์ของเกาหลีใต้ว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีปัก กึนเฮของเกาหลีใต้ ลดลงทำสถิติใหม่คือ อยู่ที่ร้อยละ 17.5 ถูกรุมเร้าด้วยปัญหาวิกฤติหลายเรื่อง โดยเฉพาะกรณีการให้เพื่อนเก่าของเธอคือนางชอย ซูนซิล เข้าไปมีอิทธิพลอย่างไม่เหมาะสมต่อการกำหนดนโยบายสำคัญๆของรัฐบาล โดยเฉพาะกรณีการอนุญาตให้นางชอย ช่วยตรวจแก้ร่างคำปราศรัยต่างๆของน.ส.ปัก ในระยะแรกๆของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

+++ผลสำรวจระบุว่าประชาชนร้อยละ 42 เห็นด้วยกับข้อเสนอที่ว่าผู้นำเกาหลีใต้ควรจะถูกรัฐสภาลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่ง ก่อนหน้านี้น.ส.ปักได้ขอโทษต่อสาธารณชนกรณีการอนุญาตให้เพื่อนของเธอเข้าไปอ่านร่างคำปราศรัยต่างๆ นอกจากนี้เป็นที่ทราบกันว่านางชอยไม่มีตำแหน่งในรัฐบาล ยอมรับว่าเธอได้ปรับแก้บางข้อความในคำปราศรัยของผู้นำเกาหลีใต้จริง แต่ปฏิเสธข้อครหาที่ว่าได้รับประโยชน์จากเงินกองทุนของรัฐบาล สื่อเกาหลีใต้เพิ่มเติมว่านางชอยอาจจะส่วนร่วมกำหนดนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลเกาหลีใต้เช่นกัน ด้านสำนักงานอัยการสูงสุดของเกาหลีใต้ระบุว่าอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อครหาดังกล่าว

แฟ้มภาพ