ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา ยืนยัน ไข้หวัดใหญ่ไม่ได้ระบาดหนักเมื่อปี 2552 ตามข่าวลือในโซเชี่ยล

การส่งต่อข้อความผ่านโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่ว่าจะมีการระบาดใหญ่เหมือนปี 2009 หรือพ.ศ.2552   ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า  กระแสข่าวในโลกโซเชียลที่เกิดขึ้น ไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ไข้หวัดใหญ่ จะระบาดตามฤดูกาลในฤดูฝน ในปีนี้การระบาดช้ากว่าทุกปีมีช่วงสูงสุดเดือนกันยายนถึงตุลาคม 2559และสายพันธุ์ที่พบในประเทศไทย จะเป็น สายพันธุ์ เอ มากกว่า สายพันธุ์บีอย่างมาก

จากการตรวจรหัสพันธุกรรม ที่ศูนย์ไวรัสฯ จำนวนมาก และต่อเนื่อง ไม่ได้มีการกลายพันธุ์ ไปจากปกติ หรือมีสายพันธุ์ใหม่ ข่าวลือที่อยู่ในสื่อสังคม จึงไม่จริง แต่มีผู้ป่วยจำนวนมาก ที่ฉีดวัคซีนแล้วยังเป็น ทั้งที่ไวรัสไม่ได้กลายพันธุ์ หลบหลีกวัคซีน โดยเฉพาะเอช3เอ็น2ต้องเข้าใจว่าวัคซีนที่ฉีดมีประสิทธิภาพประมาณ ร้อยละ 60-70  แต่จากการศึกษาที่ควบคุมตัวแปลต่าง ๆ การเก็บวัคซีนอย่างดี ประสิทธิภาพในฉลากยาจะเขียนไว้มากกว่าในทางปฏิบัติ สำหรับผู้มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้ ร่วมกับอาการทางเดินหายใจ เช่น เจ็บคอ ไอ มีน้ำมูก และถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เป็นไข้หวัดใหญ่แล้วโรคจะรุนแรง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ คนท้อง คนอ้วน ผู้มีโรคประจำตัวเช่น โรคปอด ตับโต หัวใจ ควรได้รับยาโอเซลทามิเวียร์รักษาเลย ผู้ที่แข็งแรงดีไม่ต้องให้ก็ได้ เพราะโรคหายได้เอง พักผ่อนให้เพียงพอ ป้องกันการแพร่กระจายโรค กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ

สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ระบุว่า การเฝ้าระวังโรคตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 - 17 ตุลาคม 2559 พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 123,564 ราย จาก 77 จังหวัด คิดเป็นอัตราป่วย 188.86 ต่อแสนประชากร เสียชีวิต 22 ราย คิดเป็นอัตราตาย 0.03 ต่อแสนประชากร