ไฟดับทั้งเมืองวิสโซ่ อิตาลีหลังแผ่นดินไหวรุนแรง/ฝากขังฮัมบาลีต่อที่เรือนจำกวนตานาโม/สหรัฐฯจะส่งกลับขรก.จีนที่ทุจริต

 +++สำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวลูกแรกที่อิตาลี ที่เมืองวิสโซ่ ได้ที่ 5.6 และครั้งที่สองขนาด 6.4 แต่ปรับลดระดับความรุนแรงลงในเวลาต่อมาในระดับ 5.5 และ ขนาด 6.1 ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้ดินราว 10 กิโลเมตร ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่กระแสไฟฟ้าดับทั้งเมือง  แผ่นดินไหวทั้งสองครั้งมีความรุนแรง แรงสั่นสะเทือนไกลถึงกรุงโรม สำหรับเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากแผ่นดินไหวครั้งก่อนหน้านี้ เพียง 2 เดือน โดยในช่วงปลายเดือนสิงหาคม อิตาลีเกิดเหตุแผ่นดินไหวซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบ้านเรือนได้รับความเสียหายจำนวนมาก

+++หน่วยงานของทางการสหรัฐฯ ที่รับผิดชอบทางด้านการลดจำนวนผู้ต้องขัง ในเรือนจำฐานทัพเรืออ่าวกวนตานาโมของสหรัฐฯ ในคิวบา กล่าวว่า นายริดวน อิซามุดดิน หรือที่รู้จักกันดีว่าในนามแฝง ฮัมบาลี ชาวอินโดนีเซีย  ยังคงเป็นภัยคุกคามอย่างสำคัญ ต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ  ฮัมบาลี อายุ 52 ปี ถูกซีไอเอสหรัฐฯและตำรวจไทยบุกจับกุม ที่อพาร์ตเมนต์ในจังหวัดอยุธยา เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2546 และถูกส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำกวนตานาโมในอีก 3 ปีต่อมา เชื่อกันว่าเป็นตัวแทนระดับสูงสุดของกลุ่มอัลกออิดะห์ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของกลุ่มหัวรุนแรง เจมาห์ อิสลามิยะห์ (เจไอ)    ฮัมบาลีถูกกล่าวหามีส่วนร่วมวางแผนและบงการ ระเบิดโจมตีย่านสถานบันเทิง บนเกาะบาหลีของอินโดนีเซีย เมื่อปี พ.ศ. 2545 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 202 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติชาวออสเตรเลีย นอกจากนั้นยังร่วมวางแผนโจมตีที่อื่นๆ อีกหลายแห่งในอินโดนีเซีย และเครื่องบินโดยสารพาณิชย์ของสหรัฐฯ ฮัมบาลี ปรากฎตัวต่อคณะกรรมการ Periodic Review Board ในเรือนจำกวนตานาโม เมื่อเดือน ส.ค. เพื่อร้องขอให้ปล่อยตัวเป็นอิสระ หลังถูกคุมขังโดยไม่มีการตั้งข้อหานาน 10 ปี ซึ่งคณะกรรมการฯ ระบุในแถลงการณ์ปฏิเสธคำร้องขอ เนื่องจาก ฮัมบาลี มีประวัติหัวรุนแรงมายาวนาน และมีบทบาทสำคัญในการวางแผน และการโจมตีก่อการร้ายครั้งใหญ่หลายครั้ง

+++รัฐบาลจีน ประกาศสานต่อปฏิบัติการ ล่าสุนัขจิ้งจอก (Fox Hunt) ติดตามข้าราชการและนักธุรกิจระดับผู้บริหารที่ทุจริต และหลบหนีไปต่างประเทศ รวมทั้งทรัพย์สินของกลุ่มคนเหล่านี้ ส่วนหนึ่งของสงครามกวาดล้างการทุจริตคอร์รัปชัน ตามคำสั่งของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จีน ผลักดันการทำสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แต่กลุ่มประเทศตะวันตกไม่เต็มใจให้ความช่วยเหลือ หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ ไชน่า เดลี่ ของจีน รายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ในคณะกรรมการกลางตรวจสอบวินัย องค์กรควบคุมดูแลการปราบปรามการทุจริตของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ว่า รัฐบาลจีนและรัฐบาลสหรัฐฯกำลังเร่งสรุปการเจรจา เกี่ยวกับการส่งตัวชาวจีน 5 คน ที่หลบหนีไปยังสหรัฐฯ โดยจีนจะส่งหลักฐานไปให้สหรัฐฯ และส่งคณะเจ้าหน้าที่เดินทางไปสอบสวนร่วมด้วย

+++ไชน่า เดลี่ รายงานว่า ผู้ต้องสงสัย 5 คนที่รัฐบาลจีนต้องการตัวจากสหรัฐฯมากที่สุด รวมถึง นายหยาง ซิวจู อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองเหวินโจว เมืองท่าและเมืองอุตสาหกรรมในมณฑลเจ้อเจียง ทางภาคตะวันออกตอนกลาง และนายสือ เฉาฟาน อดีตผู้อำนวยการภูมิภาคของธนาคารกลางจีน ประจำมณฑลกวางตุ้ง ทางภาคใต้ รายงานไม่ระบุชื่ออีก 3 คน และไม่ได้กล่าวถึง นายหลิง หวันเช็ง น้องชายของคนสนิทของอดีตประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ซึ่งปัจจุบันหลบหนีอยู่ที่สหรัฐฯเช่นกัน  เจ้าหน้าที่ที่ไม่เปิดเผยชื่อรายหนึ่ง เปิดเผยต่อไชน่า เดลี่ ว่า จีนและสหรัฐฯใกล้จะลงนามในข้อตกลง เพื่อแบ่งปันทรัพย์สินที่ถูกอายัด

+++นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันเร่งหาเสียงโกยคะแนนหลังโพลหลายสำนักชี้ว่า เขามีคะแนนตามหลังนางฮิลลารี คลินตัน ค่อนข้างมาก โดยนายทรัมป์ยังคงโจมตีนางฮิลลารีในเรื่องนโยบายต่างประเทศ โดยเฉพาะสงครามซีเรียที่นายทรัมป์บอกว่าอาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ได้นายทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐฯควรมุ่งเน้นปราบปรามไอเอสมากกว่าการกดดันให้ประธานาธิบดีบาห์ อัล อัสซาด แห่งซีเรีย ลงจากอำนาจ

+++ขณะที่นางฮิลลารี เสนอให้มีการประกาศเขตห้ามบินในซีเรีย ซึ่งหลายฝ่ายวิจารณ์ว่า อาจนำไปสู่ความขัดแย้งกับรัสเซีย ที่ส่งฝูงบินรบเข้าไปยังซีเรียได้ นายทรัมป์ยังโจมตีสมาชิกระดับสูงในพรรครีพับลิกันที่ไม่แสดงความเป็นเอกภาพ ในการสนับสนุนเขาขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายทรัมป์ กล่าวว่า นางฮิลลารีเคยวิจารณ์ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เอาไว้มาก ดังนั้นหากเธอได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คงไม่สามารถหันหน้าไปเจรจากับนายปูตินได้ แต่นางฮิลลารีตอบโต้ว่า ทั้งสมาชิกพรรครีพับลิกันของนายทรัมป์เอง รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทั้งหลาย ต่างฟันธงว่านายทรัมป์ไม่เหมาะจะเป็นผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐฯ โดยทรัมป์ ไม่มีแผนการในการปราบปรามไอเอสอย่างชัดเจน แถมยังไม่มีแผนในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในซีเรียด้วย สำหรับโพลล่าสุดของซีเอ็นเอ็นระบุว่านางฮิลลารีมีคะแนนนำนายทรัมป์อยู่ร้อยละ 50 ต่อ 44

CR:CNN