+++น.ส.ตรีดาว อภัยวงศ์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะโฆษกกทม. กล่าวว่า การจัดระเบียบพื้นที่รอบสนามหลวงขณะนี้ถือว่าดีขึ้น มีความเป็นระบบในหลายด้าน โดยกทม.จะพัฒนาต่อไปเพราะเป็นแม่งานที่ต้องร่วมประชุมกับทุกภาคส่วน แต่ขณะนี้ต้องขอความร่วมมือประชาชนในเรื่องอาหาร และการทิ้งขยะที่มีเพิ่มขึ้น ซึ่งมีปริมาณ 66 ตันต่อวัน จึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยกัน เพราะหากมีการทิ้งขยะถูกประเภทจะทำให้การบริหารจัดการขยะทำได้ง่าย โดยพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. อยากจะตั้งเป้าลดปริมาณขยะให้ได้ร้อยละ 20 ภายในระยะเวลา 1 เดือน ขณะที่การบริจาคอาหารขณะนี้ถือว่ามีผู้บริการอาหารที่อยู่ประจำจุดทุกวัน สามารถบริการอาหารให้ประชาชนเพียงพอต่อความต้องการ แต่อยากจะขอรับบริจาคเป็นอาหารแห้ง หรือวัตถุดิบที่ใช้ปรุงอาหาร ลดการใช้โฟม ซึ่งสามารถลงทะเบียนที่ศูนย์อาสาภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
+++ขณะที่พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึง การเข้มงวดเกี่ยวกับการหาบเร่แผงลอยบริเวณรอบท้องสนามหลวง และพระบรมมหาราชวังว่าประสานไปยังกทม.เพราะการวางของขายบริเวณทางเท้าทำให้กีดขวางจราจร ส่วนการนำของบริจาคไปขายต่อ อาจจะเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นที่มีพฤติการณ์ในลักษณะดังกล่าว สมควรที่จะถูกประนามหรือไม่ก็ให้คิดเอาเอง พร้อมทั้งฝากเตือนว่าอย่าเอาไปขายต่อ เพราะคนที่เอามาบริจาคเอามาเพื่อแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
+++บรรยากาศแลกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกของกรมธนารักษ์ นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า สาเหตุที่รวมชุด เพราะความต้องการของประชาชนมีมาก แต่ละคนที่มาซื้อก็เข้าคิวเลือกเหรียญนาน ทำให้จำหน่ายได้ช้า ซึ่งกรมก็จำหน่ายรวมเป็นชุดไปเลย โดยรอบ 5 เหรียญมงคลนี้ จำกัดการซื้อได้ไม่เกิน 2 ชุดต่อคน เพื่อให้ทั่วถึง โดยเหรียญล็อตนี้น่าจะเป็นล็อตสุดท้ายที่เหลืออยู่ ถ้าหมดก็ไม่มีจำหน่ายอีกแล้ว
+++สถานการณ์ภาคใต้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะประธานคณะผู้แทนพิเศษของคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ส่วนหน้า เป็นประธานประชุมกลุ่มภารกิจงานที่ 1 งานรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยมีคณะผู้แทนพิเศษกลุ่มภารกิจงานที่ 1 ร่วมประชุม พล.อ.อุดมเดช เปิดเผยว่า หลังจากแบ่งมอบงาน รวมถึงแจกจ่ายเอกสารเรื่องแผนการ โครงการ และงบประมาณของกลุ่มงานและกระทรวงต่างๆในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้กับคณะผู้แทนพิเศษฯ 12 คนแล้ว ในวันนี้อยากรับฟังข้อคิดเห็นของหน่วยงานต่างๆที่ได้ทำแผนงานปี 2560 เอาไว้ว่า นอกจากการศึกษาจากเอกสารแล้ว ในส่วนที่เกี่ยวกับความคิดเห็นของส่วนราชการต่างๆ มีสิ่งใดที่เห็นว่าเร่งด่วนและคิดเห็นตรงกับคณะทำงานชุดนี้หรือไม่ รวมถึงสิ่งที่เคยทำในปีที่แล้ว เพื่อเป็นประโยชน์ให้ส่วนราชการได้มาทบทวนแผนงาน
+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ให้นโยบายการขับเคลื่อนการดำเนินงานต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประสานงานทุกระดับ และแนะนำส่วนราชการต่างๆได้ พร้อมทั้งเน้นย้ำให้บูรณาการของหลายหน่วยงาน เช่น โครงการนำผู้หลงผิดกลับสู่สังคมที่เกี่ยวพันกับหลายส่วน ซึ่งมีข้อคิดเห็นเรื่องกรอบพื้นที่ และรายชื่อที่เข้ามาในโครงการฯ ขณะนี้ทราบว่ามีจำนวนประมาณ 4,000 คน โดยต้องมีลำดับความสำคัญว่าจะต้องดูแลใครก่อนหลัง เพื่อเร่งดำเนินการต่อไป ต้องให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้บัญชาการทหารบก หรือแม่ทัพภาคที่ 4 ที่ตั้งใจทำงาน รวมถึงการดูแลงานด้านการข่าว แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นก็เป็นเรื่องน่าเสียใจ เจ้าหน้าที่อาจมีช่องโหว่บ้าง แต่ก็ได้เน้นย้ำให้พยายามดูแลให้ดีที่สุด อย่าให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำในพื้นที่เขตเมือง และชุมชน และถนนเส้นหลักอีก ที่พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าจะทิ้งพื้นที่ชนบท และถนนเส้นรองต่างๆ ต้องดูแลให้ทั่วถึง โดยจะกำกับดูแลเร่งรัดหน่วยปฏิบัติ และพยายามไม่ให้เกิดช่องว่างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
แฟ้มภาพ