สถานการณ์การส่งออกของไทยในเดือนก.ย.ดีขึ้นมาก จากเดือนก่อนหน้า แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะชะลอตัว เริ่มมีสัญญาณบวกจากสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่สำคัญ อาทิ ญี่ปุ่น เยอรมนี รัสเซีย อินเดีย และบางประเทศในกลุ่มเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้น และอัตราแลกเปลี่ยนในภูมิภาคอื่น ๆรวมทั้งไทย ที่เริ่มอ่อนค่าลง หลังจากคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ จึงทำให้แนวโน้มสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของไทยเริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น สอดคล้องกับการส่งออกไทยที่ขยายตัว กลับมาเป็นบวกเต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนก.ย. ไทยส่งออกมีมูลค่ากว่า 19,460 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี จากเดือนต.ค. 57 ที่มีมูลค่าการส่งออก 20,206 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 จากเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.4 เป็น ร้อยละ 6.5 ในเดือนก.ย.นี้ ทำให้เมื่อรวมทั้ง 9 เดือน ส่งออกไทยติดลบร้อยละ 0.65 โดยมีมูลค่าการส่งออกเฉลี่ยเดือนละ 17,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีผลทำให้อันดับการส่งออกของไทย เมื่อเทียบกับประเทศสำคัญ 30 ประเทศ ปรับตัวดีขึ้นจากเดิมอยู่อันดับที่ 11 ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 10
ส่วนการนำเข้าในเดือนก.ย.นั้น ก็ขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน และขยายตัวสูงสุดในรอบ 2 ปีด้วย โดยขยายตัว ร้อยละ 5.57 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการนำเข้าสินค้าทุนประเภทเครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 14 ทำให้รวม 9 เดือน นำเข้าติดลบ ร้อยละ 7.3 ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้าในเดือน ก.ย. 2,546 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งนับเป็นการเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 ติดต่อกัน และรวม 9 เดือน ไทยเกินดุลการค้า 17,930 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะแถลงตัวเลขการส่งออกอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 ต.ค.นี้