รู้จัก โรงเรียนพระดาบส โรงเรียนจากพระราชดำริพระเจ้าอยู่หัว ฝึกอาชีพให้ผู้ยากไร้

21 ตุลาคม 2559, 16:28น.


อีกหนึ่งโครงการแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คือ โรงเรียนพระดาบส ที่ทรงพระกรุณโปรดเกล้าพระราชทานให้เป็นสถานฝึกอบรมความรู้ ทักษะวิชาชีพและทักษะชีวิตแก่ผู้ยากจน ด้อยโอกาสทางการศึกษาได้มีโอกาสศึกษาต่อ นางสาวอักษรา พฤติสุนากร หัวหน้าสำนักงานโรงเรียนพระดาบส กล่าวว่า โรงเรียนพระดาบสได้ก่อตั้งมาแล้ว 40 ปี ในช่วงแรกที่ตั้งโรงเรียนพระดาบสนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้นำทหารผ่านศึกมาเรียนเพียง6-7คน แต่ปัจจุบันเปิดโอกาสให้คนที่ด้อยโอกาสทั่วประเทศที่มีอายุตั้ง18-35 ปี ไม่จำกัดเพศ การศึกษา ขอแค่อ่านหนังสือได้ก็พอ  โดยเปิดรับนักเรียนได้ปีละ150คน มี 8 สาขาวิชาชีพ ได้แก่ ช่างยนต์ ช่างไฟฟ้า ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างซ่อมบำรุง การเกษตรพอเพียง เคหะบริบาล ช่างไม้เครื่องเรือน และช่างเชื่อม นักเรียนทั้งหมดจะอยู่ประจำโรงเรียนตลอดหลักสูตร 1 ปี เริ่มเรียนตั้งแต่เดือนเมษายน-มีนาคม  โดยการเรียนการสอน5เดือนแรกจะให้นักเรียนเรียนปรับพื้นฐานก่อน จากนั้นจะนำคะแนนที่นักเรียนสอบได้มาเลือกสาขาที่ตัวเองอยากเรียน  เมื่อสำเร็จการศึกษาโรงเรียนจะมีการมอบใบประกาศนียบัตรเพื่อรับรองว่านักเรียนที่จบการศึกษาจากที่นี่ไปนั้นมีความรู้และสามารถ หลักจากนั้นจะติดตามชีวิตของนักเรียนที่จบกาศึกษาอีก6เดือน จะมีบางคนที่เรียนต่อระดับปริญญา, เปิดธุรกิจเอง,เป็นพนักงานโรงงาน หรืออาจจะเปลี่ยนอาชีพได้เลยก็ได้ ซึ่งทางโรงเรียนจะไม่บังคับว่าจบมาจะทำอะไร เพราะพระองค์ท่านอยากให้นักเรียนทุกคนมีความรู้ มีอาชีพติดตัว มีงานทำ รวมถึงเป็นคนดีในสังคมเท่านั้น





 ในอดีตโรงเรียนพระดาบสไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในสังคม แต่ขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ศิษย์เก่า และสถานประกอบการที่เข้ามาขอรับนักเรียนไปทำงานด้วย เข้ามาช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จัก ดังนั้นมีนักเรียนที่สนใจเข้ามาสมัครจำนวนมากขึ้น คณะกรรมการของมูลนิธิพระดาบสจึงต้องมีการคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาศึกษา โดยจะวัดจากทุนทรัพย์ ความตั้งใจ และความมุ่งมั่นที่อยากจะมีอาชีพจริงๆ เพราะอยากได้นักเรียนที่เข้ามาแล้วสามารถเรียนและประกอบอาชีพได้ด้วยตัวเอง เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ของพระองค์ แม้นักเรียนจบออกไปอาจจะไม่ได้ดีเต็มร้อยทุกคน แต่เชื่อกระบวนการสอนในตลอดระยะเวลา1ปีที่มุ่งเน้นปลูกฝังให้นักเรียนเป็นคนดีทุกๆด้าน เช่น การบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม การรู้จักแก้ปัญหา และรู้จักการให้ ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวนักเรียนว่าจะรับหรือไม่



ด้านนายภัทธกร ประทุมสังข์ อาจารย์ประจำหลักสูตรวิชาชีพการเกษตรพอเพียง เปิดเผยว่า อยากจะถ่ายทอดพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดชมาเผยแพร่ให้นักเรียนและคนรอบข้างได้รับรู้ โดยอยากจะเน้นในเรื่องของการดำรงชีวิตด้วยเศรษฐกิจพอเพียง การรู้จักประมาณตน การเกษตร การทำอาหาร ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดมูลค่า สร้างรายได้และให้เกิดประโยชน์แก่นักเรียนในอนาคต ส่วนตัวคิดว่าโรงเรียนพระดาบสสามารถสอนเด็กได้ดี เนื่องจากได้รับคำชื่นชมจากสถานประกอบที่ขอรับนักเรียนไปทำงานด้วย อีกทั้งยังซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านก่อนที่จะเข้ามาเป็นอาจารย์ในโรงเรียนพระดาบสอยู่แล้ว แต่พอเข้ามาเป็นอาจารย์ก็ได้เรียนรู้และสัมผัสโครงการด้านเกษตรของพระองค์ท่านหลายโครงการ ซึ่งหลังจากนี้จะพยายามพานักเรียนในสาขาของตนไปศึกษาหรือฝึกงานในโครงการพระราชดำริของพระองค์ต่อไป





ด้านนายธนพัฒน์ พิมพา อายุ19 ปี นักเรียนสาขาอิเล็กรอนิกส์ เล่าให้ฟังว่า ได้สำเร็จการศึกษาวุฒิมัธยมศึกษาปีที่6 แต่เนื่องจากทางบ้านมีปัญหาเรื่องทุนทรัพย์ ทำให้ไม่มีโอกาสได้เรียนต่อ พ่อจึงแนะนำให้มาสมัครเป็นนักเรียนของโรงเรียนพระดาบส จะได้เรียนต่อและถือว่าเป็นโอกาสที่ดีกว่าจะไปเรียนโรงเรียนอาชีวะ เพราะ โรงเรียนเหล่านี้ชอบทะเลาะวิวาทกัน ซึ่งรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มาเรียนในโรงเรียนพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าขึ้นมา เพราะบางคนไม่มีโอกาสเหมือนตน ขณะเดียวกันจะนำความรู้ที่ได้จากการเรียนในสาขาอิเล็กทรอนิกส์มาทำความดีด้วยการช่วยเหลือประชาชน เช่น ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ต่อพ่วง แม้กระทั่งร่วมเป็นจิตอาสาแจกถุงพระราชทานให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ต่างๆด้วย



ส่วนนางสาวศศิธร ภุมรา อายุ 23 ปี อยู่จังหวัดบุรีรัมย์ และเป็นนักเรียนสาขาเคหบริบาล กำลังจัดเตรียมอาหารกลางวันให้นักเรียนคนอื่นๆได้เปิดใจว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีเมตตาเปิดโอกาสให้คนด้อยโอกาสได้รับการศึกษาเหมือนคนทั่วไป ทำให้มีความรู้นำไปประกอบอาชีพ หลังจากนี้พร้อมที่จะนำความรู้ที่เรียนมาไปช่วยเหลือสังคม จึงอยากฝากถึงคนที่ด้อยโอกาสให้ลองมาสมัคร เพราะโรงเรียนนี้ไม่ได้แค่สอนวิชาชีพเพียงอย่างเดียว แต่ยังสอนอะไรหลายๆอย่าง เช่น ช่วยเหลืออาจารย์ เนื่องจากอาจารย์มีจิตอาสาที่จะมาสอนพวกเราแล้ว ก็ควรตอบแทนท่าน หรือการทำหน้าที่ของตัวเองตามที่ได้รับมอบหมาย การปรับตัวเข้าสังคม การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนักเรียนด้วยกันเอง ซึ่งรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ไม่รู้ว่าจะตอบแทนพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอย่างไร แต่จะให้คำมั่นสัญญาว่าจะเป็นคนดีของสังคม มีอะไรที่พอจะตอบแทนโรงเรียนที่พระองค์ตั้งขึ้นมาหรือจะตอบแทนแผ่นดินนี้ได้ ตนและเพื่อนๆก็พร้อมที่จะตอบแทน เพราะอาจารย์เคยสอนว่า ท่านไม่ได้หวังว่าเมื่อเราสำเร็จการศึกษาแล้วจะต้องนำเงินมาให้ แต่ท่านเพียงอยากให้เราเป็นคนดี มีน้ำใจ และนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาไปต่อยอดสร้างรายได้ให้ตัวเองและครอบครัว นางสาวศศิธรเปิดเผยว่าหากมีโอกาสไปถวายความอาลัยแด่พระองค์ท่าน ที่พระบรมมหาราชวังสักครั้งในชีวิต เพราะพระองค์ทรงเมตตาให้โอกาสทางการศึกษาเหมือนอย่างคนอื่น





 



 



ผสข. ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ

ข่าวทั้งหมด

X