+++การดูแลความเรียบร้อยและสุขภาพอนามัยให้กับประชาชนที่จะเดินทางมาถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พูดคุยกับประชาชนที่มาพักค้าง ซึ่งกทม.ได้จัดพื้นที่พร้อมกางเต็นท์ให้นอนในจุดที่กำหนด.
+++ส่วนการเตรียมพื้นที่ในช่วงวันหยุด 22-24 ต.ค. 2559 นางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกทม. ประชุมเตรียมความพร้อมทางการแพทย์ ดูแลประชาชนที่จะมาร่วมถวายความอาลัยจำนวนมากในวันพิธีสำคัญและวันหยุดนักขัตฤกษ์ นางวันทนีย์ กล่าวว่า ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ ร่วมกับกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่าย มากกว่า 31 หน่วย บูรณาการการทำงานผ่านศูนย์ปฏิบัติการร่วมการแพทย์และสาธารณสุข โดยเชิญหน่วยงานหลักด้านการแพทย์เข้าร่วมจัดบริการทางการแพทย์ เพื่อให้บริการประชาชนที่มาร่วมถวายสักการะและเจ้าหน้าที่ที่มาให้บริการประชาชน โดยจัดหน่วยแพทย์ หน่วยปฐมพยาบาลโรงพยาบาลสนาม และทีมสุขภาพจิต ในจุดบริเวณโดยรอบสนามหลวง จำนวน 11 จุด และแบ่งระดับการให้บริการ รวมทั้งมีโรงพยาบาลสนามที่ดูแลโดยกรมแพทย์ทางบกและโรงพยาบาลราชวิถี เพื่อให้การดูแลประชาชน จากการให้บริการประชาชนที่มาร่วมถวายสักการะ ประมาณ 1 แสนกว่าคน ส่วนใหญ่จะพบว่าประชาชนมีอาการเป็นลม น้ำตาลในเลือดต่ำ โดยในจำนวนนี้มี 10 ราย ที่นำส่งโรงพยาบาล เพื่อรักษาตัว โดยเมื่อวันที่ 16 ต.ค. เป็นวันหยุดพบว่ามีประชาชนเดินทางมาถึง 2 แสนคน ส่วนวันจันทร์-ศุกร์ มีประชาชน เดินทางมา 4-5 หมื่นคน คาดว่าในวันที่ 23-25 ต.ค. นี้เป็นวันหยุดยาวและในวันที่ 28 ต.ค. ที่สำนักพระราชวัง ได้รับพระราชานุญาตให้ประชาชน เข้าเฝ้าฯ กราบบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท จะมีประชาชนเดินทางมาจำนวนมาก โดยเฉพาะคนต่างจังหวัด ดังนั้นจึงได้เตรียมความพร้อมด้านทางการแพทย์ โดยได้ประสานปลัดกระทรวงมหาดไทย จัดคิวรถบัส เพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปสักการะอย่างทั่วถึง
+++นางวันทนีย์ กล่าวว่า ยังมีความเป็นห่วงเรื่องของอากาศ กทม.จึงได้เตรียมเต้นท์ให้มากขึ้น รวมทั้งจัดโซนการให้บริการ เนื่องจากบางรายพบว่ามีโรคประจำตัว ทั้งนี้ยังเป็นห่วงในเรื่องของอาหารที่มีการแจกจ่ายให้กับประชาชน ที่บางครั้งอาจปรุงสุกมาตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ได้แจกช่วงบ่าย จึงขอความร่วมมือผู้ที่แจกจ่าย ติดต่อกองอำนวยการร่วมกระทรวงมหาดไทย ขณะเดียวกันยังเป็นห่วงเรื่องของน้ำแข็ง ซึ่งอาจมีการปนเปื้อน ดังนั้นสำนักอนามัย จึงได้ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบด้วย
+++ การดูแลรักษาน้ำย้อมผ้าหลังจากที่อาสาสมัครทำการย้อมผ้าเป็นสีดำให้ประชาชนแล้ว นายประเมิน ไกรรส ผู้อำนวยการเขตพระนคร เปิดเผยว่า เรื่องการบริการย้อมผ้าบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงท้องสนามหลวงขอความร่วมมือกับอาสาสมัคร หรือผู้ที่จะมาอำนวยความสะดวก ให้แจ้งขออนุญาตกับกองอำนวยการก่อน เพื่อที่จะทำความตกลงในการดำเนินการ รวมทั้งพิจารณาว่าความต้องการของประชาชนมีมากหรือไม่ เพื่อจำกัดการให้บริการไม่ให้เกินความต้องการ ส่วนที่เปิดให้บริการอยู่ตอนนี้ เช่น ศูนย์การศึกษานอกระบบ กระทรวงศึกษาธิการ (กศน.) และอาสาสมัครต่างๆ ที่เปิดให้บริการอยู่ขณะนี้ จะส่งเจ้าหน้าที่ ฝ่ายสิ่งแวดล้อมลงพื้นที่ตรวจสอบ ทั้งนี้ หากไม่มีจุดทิ้งน้ำย้อมผ้า จะให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่รับเก็บน้ำเสียจากการย้อมในทุกจุดที่ให้บริการ เพื่อลดผลกระทบหรือเกิดมลพิษทางน้ำ
+++กระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า ตามที่มีการรายงานข้อมูลข่าวสารในสื่อต่างประเทศที่คลาดเคลื่อน แสดงถึงความไม่เข้าใจขนบธรรมเนียมประเพณีของไทย ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนไทย กระทรวงการต่างประเทศ ได้ชี้แจงข้อมูลเรื่องนี้ไปยังสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ และคณะผู้แทนของไทยในต่างประเทศทุกแห่งทั่วโลกแล้ว เพื่อให้เอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่ และหัวหน้าคณะผู้แทนไทย ไปทำความเข้าใจกับทางการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศต่างๆให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎมณเฑียรบาล และจารีตประเพณี ซึ่งจะมีขั้นตอนและพระราชพิธีสำคัญที่เกี่ยวข้องตามห้วงเวลา ได้แก่ การสืบราชสมบัติ (Succession) พระราชพิธีถวายพระเพลิง (Royal Cremation) และ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก (Coronation) เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และมิให้เกิดการนำเสนอข่าวสารที่คลาดเคลื่อนอีก นอกจากนี้ ขณะนี้ ประมุขรัฐและผู้นำรัฐบาลหลายประเทศ ได้แสดงความประสงค์มาเยือนประเทศไทย เพื่อถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กระทรวงการต่างประเทศ อยู่ระหว่างการประสานงาน
+++นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึง การรับฟังความเห็นต่อการจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับ นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า การจัดเวทีรับฟังความเห็นในพื้นที่แต่ละภูมิภาค 4 จังหวัด จะเลื่อนออกไปก่อน ส่วนการจัดสัมมนาเพื่อรับฟังความเห็นจากพรรคการเมืองของอนุกรรมการประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็น ที่มีนายชาติชาย ณ เชียงใหม่ เป็นประธาน คาดว่าจะจัดสัมมนาเพื่อรับฟังความเห็นร่างพ.ร.ป.อีก 2 ฉบับคือ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยกกต.และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ในเดือนพ.ย. โดยอนุกรรมการฯจะส่งจดหมายเชิญไปยังพรรคการเมือง แต่จะเชิญในฐานะสมาชิกพรรค จะได้ไม่ต้องติดขัดว่า ต้องประชุมหามติพรรคเพื่อส่งตัวแทนมาร่วมแสดงความเห็น จะได้ทำให้พรรคการเมืองมีส่วนร่วม ส่วนข้อเรียกร้องจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ที่อยากให้กรธ.ส่งร่างพ.ร.ป.ที่เสร็จแล้วมาพิจารณาเบื้องต้นก่อน เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา
+++ตลาดหุ้นไทย ปิดตลาด1,492.73 จุด เพิ่มขึ้น 6.45จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 51,214.62 ล้านบาท
+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 69.43 จุด ปิดที่ 23,374.40 จุด
+++ส่วนดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียวญี่ปุ่น ปิดพุ่งขึ้น 236.59 จุด ที่ 17,235.50 จุด นักลงทุนจับตาดูการโต้วาทีในศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ลงชิงตำแหน่งจากพรรครีพับลิกันจะสามารถทำคะแนนตีตื้นขึ้นมาได้หรือไม่ หลังจากที่ถูกโจมตีอย่างหนักจากการพูดจาดูหมิ่นผู้หญิง
+++นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ และบริษัทจดทะเบียนรายอื่นๆในสหรัฐฯ เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง รวมทั้งราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้