เว็บไซต์ทูเดย์ออนไลน์ของสิงคโปร์รายงานอ้างเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งที่แสดงผลงานภาพถ่ายของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชว่าพระองค์ทรงมีกล้องถ่ายรูปขนาดเล็กๆหนัก 71 กรัมมาตั้งแต่ทรงมีพระชนมายุ 8 พรรษา อุปกรณ์เล็กๆชิ้นนี้ส่งผลให้พระองค์ทรงโปรดการถ่ายภาพมาตลอด 80 ปีต่อมา คือน้อยครั้งมากที่เราจะเห็นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กษัตริย์ที่ครองราชย์นานที่สุดของโลกเสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่ต่างๆโดยไม่มีกล้องถ่ายรูป กล้องถ่ายภาพเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญสำหรับการเดินทางของพระองค์ เช่นเดียวกับแผนที่ ปากกาและยางลบ โดยเฉพาะเมื่อเสร็จตรวจเยี่ยมโครงการต่างๆในพื้นที่ชนบทของประเทศไทย อุปกรณ์ดังกล่าวมีส่วนช่วยให้พระองค์ติดตามโครงการพัฒนาต่างๆของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
เว็บไซต์ดังกล่าวระบุว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงถ่ายภาพที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ เช่นภาพถ่ายแสดงที่ตั้งที่เหมาะสมของเขื่อน ฝายน้ำล้นและคันกั้นน้ำต่างๆ ภาพหมู่บ้าน บริเวณโดยรอบหมู่บ้านและเส้นทางคมนาคม มีทั้งภาพที่ทรงถ่ายทางบก ทางอากาศหรือถ่ายจากเฮลิคอปเตอร์ ภาพต่างๆเหล่านั้นเป็นประโยชน์อย่างมาก ช่วยให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สามารถวางแผนและจัดทำโครงการหลวงกว่า 3,500 โครงการในชนบทของประเทศไทย ในเรื่องการประดิษฐ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์หลายชิ้นเพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทยให้ดีขึ้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นเจ้าของสิทธิ์บัตรกว่า 20 ชิ้นและเครื่องหมายการค้า 19 ชิ้น รวมถึงสิทธิบัตรโครงการฝนหลวงและสิทธิบัตรกังหันน้ำชัยพัฒนา พระองค์จึงได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่าพระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทยและบิดาแห่งฝนหลวง
นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงโปรดดนตรีแจ๊ส ตั้งแต่ขณะประทับอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พระองค์ทรงซื้อเครื่องดนตรีแซ็กโซโฟนมือสองด้วยราคา 300 ฟรังก์ โดยใช้เงินเก็บออมส่วนพระองค์ครึ่งหนึ่ง ส่วนเงินที่เหลือทูลขอจากพระราชมารดา ในช่วงนั้นพระองค์ทรงเล่นเครื่องดนตรีแซ็กโซโฟนร่วมกับนักเรียนไทยคนอื่นๆในเมืองโลซาน สวิตเซอร์แลนด์ ทรงมีโอกาสทรงดนตรีร่วมกับนักดนตรีแจ๊สระดับโลกเช่น เบนนี่ กู๊ดแมน,สแตน เก็ตส์,ไลโอเนล แฮมป์ตันและเบนนี คาร์เตอร์ นอกจากนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังพระราชนิพนธ์บทเพลงราว 48 เพลง เพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรกคือ แสงเทียน แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ยามเย็นและสายฝน ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเมื่อปี 2489 ซึ่งเป็นช่วงที่เสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว นอกจากนั้นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระปรีชาสามารถด้านการวาดภาพ ในด้านกีฬา ทรงเป็นแชมป์กีฬาเรือใบ คว้าเหรียญทองจากกีฬาเรือใบในการเข้าร่วมการแข่งกีฬาแหลมทอง(เซียปเกมส์)ครั้งที่ 4 หรือขณะนี้เรียกว่ากีฬาซีเกมส์เมื่อปี 2510
ทีมต่างประเทศ
CR:เว็บไซต์ทูเดย์ออนไลน์