กระทรวงยุติธรรมจัดพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ครบกำหนด7วัน โดยมีพลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธี โดยมีข้าราชการเข้าเข้าร่วมพิธีด้วย จากนั้น พลเอกไพบูลย์เข้าร่วมบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทยในจุดเจ้าหน้าที่ให้บริการด้วย
พลเอกไพบูลย์ได้ กล่าวว่า รัฐบาล หน่วยงานและข้าราชการกระทรวงยุติธรรม สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และเศร้าโศกต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นอย่างมาก จึงได้จัดกิจกรรมทำบุญตักบาตรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่านและจะรำลึกถึงในใจตลอดไป ทั้งนี้พลเอกไพบูลย์พร้อมน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาปฏิบัติใช้เพื่อเป็นประโยชน์สูงสุด
ส่วนกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้พันตำรวจโทสุพจน์ นาคเงินทอง ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม พลเอกไพบูลย์ มองว่า การเปลี่ยนผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ก็เพื่ออยากจะให้ผู้ที่มีความชำนาญงานมาปฏิบัติหน้าที่ และมุ่งปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนให้มากที่สุด
สำหรับ การดำเนินคดีกับผู้ที่หมิ่นสถาบัน พลเอกไพบูลย์ในฐานะที่เป็นประธานดูแลผู้ที่กระทำผิดตามมาตรา 112 กล่าวว่า ในที่ประชุมครม.เมื่อวานนี้มีการ ลงนามและแจ้งรายชื่อผู้ที่กระทำผิดไปถึงเอกอัครราชทูต 7ประเทศด้วยกัน ซึ่งอยากให้ประชาชนเข้าใจว่า การดำเนินการเราไม่สามารถไปละเมิดอธิปไตยของประเทศอื่นได้ แต่จะอธิบายให้ต่างประเทศเข้าใจถึง การกำกับดูแลบุคคลเหล่านี้ไม่ให้มากระทำการใดที่กระทบต่อจิตใจของประชาชนชาวไทย
ส่วนการปิดล้อมบ้านของผู้ที่โพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันนั้นก็ขอฝากไปถึงประชาชนว่ามีเจ้าหน้าที่คอยดำเนินการทางกฎหมายอยู่แล้ว หากไปปิดล้อมเช่นนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือเรียกว่ากฎหมู่ แต่หากพบกลุ่มที่มีความแตกต่างในเรื่องของทัศนคติ ก็ควรนำ มาตรการทางสังคมมาประกอบใช้กับการบังคับกฎหมายของเจ้าหน้าที่