รองนายกฯฝ่ายกม.ย้ำการทำตามรธน.ม.23 ต้องรอเวลาตามความเหมาะสม เพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับความเปลี่ยนแปลง

18 ตุลาคม 2559, 20:52น.


หลังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุเรื่องการสืบราชสันตติวงศ์ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลผ่านพ้นช่วงเวลา 7 วัน 15 วันไปแล้วระยะหนึ่งน่าจะได้เวลาอันสมควรที่จะดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 23 ว่า เป็นไปอย่างที่นายกรัฐมนตรีได้อธิบาย และเป็นไปตามที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้มีพระราชปรารภตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2559 และอีกครั้งเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2559 ตอนที่นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าพร้อมกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ โดยพระองค์ทรงรับสั่งว่าเรื่องที่จะดำเนินการสืบราชสันตติวงศ์ให้รอระยะเวลาที่พระองค์ทรงใช้คำว่าทุกฝ่ายสามารถทำใจได้ว่ามันเป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงแล้วก่อน ดังนั้น ขอให้รอ เมื่อถึงเวลาอันสมควร ประชาชนคลายความทุกข์โศกลงได้บ้าง ให้พระราชพิธีต่างๆ ได้ผ่านพ้น เพราะฉะนั้นที่นายกรัฐมนตรีกล่าวถึง 7 วัน 15 วัน เป็นรอบของการที่จะมีพระราชพิธีครบรอบ 7 วัน 15 วัน 50 วัน ซึ่งคนไทยเราทำบุญตามรอบเช่นนี้ จึงขอให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่คนได้ทำสิ่งที่เขาอยากทำกันเสียก่อนเถิด แล้วการที่จะมาทำใจยอมรับความเปลี่ยนแปลงก็จะค่อยๆ เกิดขึ้นได้ ความหมายมีแค่นี้ ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อน                                                    



ส่วนที่นายกรัฐมนตรีระบุสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่จะทรงลงพระปรมาภิไธยภายในกรอบเวลาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดโดยจะไม่กระทบต่อปฏิทินการทำงานนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับร่างรัฐธรรมนูญ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่จะทรงลงพระปรมาภิไธยด้วยพระองค์เอง แต่จะเป็นเมื่อใดนั้นไม่สามารถตอบได้ แต่ขอให้ความมั่นใจว่าจะไม่กระทบขั้นตอนระยะเวลาในปฏิทินการทำงานเป็นอันขาด เพราะเมื่อนายกฯทูลเกล้าฯร่างรัฐธรรมนูญ ร่างดังกล่าวจะอยู่ที่สำนักราชเลขาธิการได้ 90 วัน ดังนั้น อย่างไรเสียจะอยู่ในช่วงเวลานั้น หรือหากล่าช้ากว่านั้นก็ไม่มีผลกระทบใดๆ เนื่องจากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) สามารถทำงานได้ตามปกติ จึงอย่าไปตีความอะไร ทุกอย่างตรงไปตรงมาหมด ส่วนรัฐบาลเองจะได้เตรียมการ สถานการณ์จะเกิดขึ้นเมื่อใดก็พร้อมที่จะรับมือ                                         



ส่วนกรณีการแก้ไขคำปรารภในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม มีมติให้ส่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้วินิจฉัยตามมาตรา 5 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) ปี 2559 และเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้ว ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้รับแล้ว และจะพิจารณาโดยเร็ว ซึ่งไม่ยากว่าใครจะเป็นคนแก้ เพราะแก้อย่างไร ได้เตรียมไว้แล้ว ปัญหาว่าจะถือว่าใครเป็นคนเสนอแก้ และไม่ได้แก้เนื้อความ แก้เฉพาะพระปรมาภิไธยตอนต้นเท่านั้น โดยต้องขอความเห็นชอบจากศาลรัฐธรรมนูญ

ข่าวทั้งหมด

X