คสช.มีคำสั่งกำหนดตำแหน่งเพิ่มและแต่งตั้งข้าราชการตำแหน่งสำคัญ

28 มิถุนายน 2557, 00:12น.


ช่วงค่ำ 27มิ.ย. คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีคำสั้งที่77/2557เรื่อง การกำหนดตำแหน่งเพิ่มและการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง เพื่อให้การปฏิบัติงานของส่วนราชการต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเหมาะสมยิ่งขึ้น หัวหน้าคสช. จึงมีคำสั่ง ดังนี้ . ข้อ1.ให้กำหนดตำแหน่งข้าราชการเพิ่มขึ้นในส่วนราชการดังนี้ (1.)ตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม (อัตราจอมพล) ในกระทรวงกลาโหมจำนวน1ตำแหน่ง โดยให้เป็นตำแหน่งข้าราชการทหารตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการทหารพ.ศ.2521 (2) ตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นตำแหน่งข้าราชการอัยการชั้น8เทียบเท่าอัยการสูงสุดจำนวน1ตำแหน่ง โดยให้เป็นตำแหน่งข้าราชการอัยการตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.2553 (3) กำหนดแต่ตั้งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน5ตำแหน่ง โดยให้เป็นตำแหน่งข้าราชการพลเรือน ตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนพ.ศ.2551 ข้อ2ให้พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก พ้นจากตำแหน่งปลัดกระทรงกลาโหม และให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษากระทรวงกลาโหมเป็นพิเศษ เฉพาะราย ข้อ3ให้นายอรรถพล ใหญ่สว่าง พ้นจากตำแหน่งอัยการสูงสุดและให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงานอัยการสูงสุด ข้อ4 ให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ พ้นจากตำแหน่งอธิบดีสอบสวนคดีพิเศษ และให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นพิเศษเฉพาะราย ข้อ5ให้นายธงทอง จันทรรางศุ พ้นจากตำแหน่งสำนักงานปลัดนายรัฐมนตรีและให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรับมนตรีเป็นพิเศษเฉพาะราย ข้อ6ให้นายสุรชัย ศรีคาม พ้นจากตำแหน่งปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นพิเศษเฉพาะราย ข้อ7ให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นพิเศษเฉพาะราย ข้อ8ให้นายสุวิจักษณ์ นาควัชระชัย พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและให้ดำรงตำแหน่งเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรับมนตรีเป็นพิเศษเฉพาะราย ข้อ9ให้พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ พ้นจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวงกลาโหม และให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ข้อ10ให้นายตระกูล วินิจนัยภาค พ้นจากตำแหน่งรองอัยการสูงสุดให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด ข้อ11ให้ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล พ้นจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และให้ดำรงตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ข้อ12ให้นางเมธินีเทพมณี พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ข้อ13ให้นายภาณุ อุทัยรัตน์ พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยและให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ข้อ14ให้นายจเร พันธุ์เปรือง พ้นจากตำแหน่งรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏรและให้ตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ข้อ15พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ พ้นจากรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และให้ดำรงตำแหน่งเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ข้อ16ให้ข้าราชการซึ่งดำรงตำแหน่งข้างต้นปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งตั้งแต่วันที่มีคำสั่งนี้เป็นต้นไป ข้อ17ให้กระทรวงกลาโหม สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงบประมาณ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการเกี่ยวกับตำแหน่งและอัตราเงินเดือนของข้าราชการดังกล่าวให้เรียบร้อยโดยด่วนโดยจัดให้ดำรงตำแหน่งที่ไม่ตำกว่าตำแหน่งที่ข้าราชการผู้นั้นดำรงตำแหน่งอยู่เดิม ข้อ18เมื่อมีการจัดตั้งคระรัฐมนตรีแล้วให้นำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งตามคำสั่งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ข้อ19เมื่อไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งตามข้อ2ข้อ3ข้อ4ข้อ5ข้อ6ข้อ7ข้อ8ให้ตำแหน่งดังกล่าวเป็นอันยกเลิก นอกจากนี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกประกาศฉบับที่ 78/2557 เรื่องการกำหนดตำแหน่งเพิ่ม และการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง เพื่อให้การปฏิบัติงานของส่วนราชการต่าง ๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมยิ่งขึ้น หัวหน้าคสช.จึงมีคำสั่งดังนี้ 1.ให้กำหนดตำแหน่งข้าราชการเพิ่มขึ้นในส่วนราชการดังนี้ 1. ตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายรัฐมนตรี ในสำนักนายกรัฐมนตรีจำนวน 1 ตำแหน่ง 2. ตำแหน่งที่ปรึกษาในสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรมจำนวน 1 ตำแหน่ง 3. ตำแหน่งผู้ตรวจราชการในสำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงการคลัง 1 ตำแหน่ง 2. ให้นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ พ้นจากตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์ และให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตามข้อ 1 (1) เป็นพิเศษเฉพาะราย 3. ให้น.ส.ชุติมา บุณยประภัสร พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์ 4. ให้พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) และให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ตามข้อ 1(2) เป็นพิเศษเฉพาะราย 5. ให้นายประยงค์ ปรียาจิตต์ พ้นจากตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐแทน 6.ให้นายราฆพ ศรีศุภอรรถ พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากร และให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลังตามข้อ 1(3) เป็นพิเศษเฉพาะราย 7. ให้นายสมชัย สัจจพงษ์ พ้นจากตำแหน่งผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากร 8. ให้นายกฤษฏา จินะวิจารณะ พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และให้ดำรงตำแหน่งผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง 9. ให้ข้าราชการซึ่งดำรงตำแหน่งข้างต้นปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งตั้งแต่วันที่มีคำสั่งนี้เป็นต้นไป 10. ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) สำนักงบประมาณ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเกี่ยวกับตำแหน่งและอัตราเงินเดือนของข้าราชการดังกล่าวให้เรียบร้อยโดยด่วน โดยจะให้ดำรงตำแหน่งที่ไม่ต่ำกว่าตำแหน่งที่ข้าราชการผู้นั้นดำรงตำแหน่งอยู่เดิม 11. เมื่อมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้นำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งข้าราชการ ให้ดำรงตำแหน่งตามคำสั่งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย และ12. เมื่อไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งตามข้อ 2 ข้อ 4 และ ข้อ 6 แล้ว ให้ตำแหน่งดังกล่าวเป็นอันยกเลิก ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป.

ข่าวทั้งหมด

X