ผู้บริหารและพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทั่วประเทศ จำนวนกว่า 20,000 คน ร่วมถวายความอาลัยการสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 โดยมีนายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการ กฟผ. นำถวายความอาลัยที่หอประชุมเกษมจาติกวณิช สำนักงานใหญ่การไฟฟ้าฝ่ายผลิต อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
นายกรศิษฏ์ เปิดเผยว่า พนักงาน กฟผ. ทุกคน น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ และมีความภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสถวายงานตามเบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยพระปรีชาสามารถด้านวิศวกรรม พระองค์ทรงมีพระราชดำริในการพัฒนาแหล่งน้ำและเขื่อน เพื่อความสว่างไสวและความเจริญให้กับประเทศ และความผาสุกของประชาชน ทำให้มีการพัฒนาเขื่อนอเนกประสงค์หลายแห่ง ที่มีการนำพลังน้ำมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าควบคู่กับการชลประทาน อาทิ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานพระปรมาภิไธยให้เป็นชื่อเขื่อน และในยามที่เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมเยือนราษฎรในส่วนภูมิภาค กฟผ. ยังได้รับพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ถวายการรับรอง ณ พระตำหนักที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขื่อนของ กฟผ. อยู่เสมอ นำมาซึ่งความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กที่จะช่วยพัฒนาชุมชนในพื้นที่ห่างไกล กฟผ.ได้รับสนองพระราชดำริในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำบ้านยาง โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล โรงไฟฟ้าพลังน้ำบ้านขุนกลาง จ.เชียงใหม่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนห้วยกุ่ม เขื่อนพรมธารา จ.ชัยภูมิ โรงไฟฟ้าพลังน้ำบ้านสันติ จ.ยะลา โรงไฟฟ้าพลังน้ำคลองช่องกล่ำ จ.สระแก้ว และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังให้ความสำคัญกับพลังงานทดแทน โดย กฟผ.ได้สนองพระราชดำริด้วยการดำเนินการ โครงการบ้านพลังงานแสงอาทิตย์ และ โครงการผลิตเชื้อเพลิงแกลบอัดแท่ง รวมถึง การสกัดน้ำมันไบโอดีเซลจากเมล็ดต้นสบู่ดำ เพื่อเป็นต้นแบบกับประชาชน
นอกจากการผลิตไฟฟ้าแล้ว กฟผ. ยังได้สนองเบื้องพระยุคลบาท ด้านการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม ด้วยการดำเนินโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2542 โดยการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียงให้แก่ชุมชนรอบเขต เขื่อน โรงไฟฟ้า และระบบส่งของ กฟผ. ทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนที่อยู่โดยรอบหน่วยงานที่ กฟผ. ตั้งอยู่รู้จักการพึ่งพาตนเองด้วยวิถีธรรมชาติ ช่วยลดค่าใช้จ่าย ส่งผลให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง กลายเป็นชุมชนต้นแบบ เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับชุมชนอื่นๆ ทั่วประเทศได้นำแนวทางไปปฏิบัติ ในขณะเดียวกัน กฟผ. ได้สนองแนวพระราชดำริด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการดำเนินโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้ตามแนวพระราชดำริ อาทิ โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ และโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ (อพ.สธ.) เพื่อรักษาและปกปักรักษาผืนป่าให้มีความอุดมสมบูรณ์
นอกจากนี้ กฟผ. ได้น้อมนำพระราชจริยาวัตรอันงดงามของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นต้นแบบในการดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ได้แก่ พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นพุทธมามกะ กฟผ. จึงจัดให้มีพิธีถวายผ้าป่ามหากุศลเฉลิมพระเกียรติฯ ในโครงการ ทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย เป็นประจำทุกปี เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่ตลอดไป นอกจากนี้ พระองค์ทรงเป็นต้นแบบการเสวยข้าวกล้องเป็นพระกระยาหารหลัก กฟผ. จึงได้ดำเนินโครงการ ข้าวกล้องเบอร์ 5 เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาบริโภคข้าวกล้องเพื่อสุขภาพที่ดี ขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมรายได้ให้เกษตรกร ไปพร้อมกับการประหยัดพลังงานจากการลดขั้นตอนในกระบวนการสีข้าวได้อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ กฟผ. ได้ไว้ทุกข์ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี โดยการลดธงครึ่งเสา เป็นเวลา 30 วัน และแต่งกายด้วยชุดไว้ทุกข์เป็นเวลา 1 ปี ทั้งยังมีการประดับผ้าขาว-ดำ รวมถึงได้จัดสถานที่เพื่อประกอบพิธีลงนามถวายความอาลัย ณ สำนักงาน เขต เขื่อน และโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ทั่วประเทศ อีกทั้งได้เตรียมจุดบริการน้ำดื่มและอาหารกล่อง สำหรับประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพที่พระบรมมหาราชวังอีกด้วย