ที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จัดสถานที่บริเวณ ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี เพื่อให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน ลงนามถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นวันแรก
โดยในการอำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเดินทางมาสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระบรมมหาราชวัง นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธณะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการ ศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มอบให้กระทรวงคมนาคม ขสมก. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูแลอำนวยความสะดวกด้านการเดินทาง โดย ขสมก. จะมีบริการรถเมล์ฟรี รับส่งประชาชนบริเวณโรงแรมรัตนโกสินทร์ และจัดที่จอดรถส่วนบุคคล เช่น ลานจอดรถใต้สะพานพระราม 8, ลานจอดรถกำแพงเพชร 2,5 และ 6, ลานจอดรถโรงปูน และสนามม้านางเลิ้ง ซึ่งจะมีรถรับส่งบริการสาธารณะ รวมถึงจัดที่จอดรถให้ประชาชนที่มาจากต่างจังหวัด 4 มุมเมือง คือ พุทธมณฑลสาย 4, เซ็นทรัลเวสเกตต์ บางใหญ่, เมืองทองธานี และบางกอกมอลล์ บางนา
ส่วนผู้ที่จะนำอาหารและเครื่องดื่มมาให้บริการประชาชน ขอความร่วมมือให้ประสานสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือ สายด่วน 1111 หรือตามกระทรวง ทบวง กรม เพื่ออำนวยความสะดวก แทนการไปแจกจ่ายกันเอง เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย และหากประสงค์จะเข้าไปที่สนามหลวง ให้ประสานงานที่ศูนย์ประสานงานร่วม คสช. และ กทม. ซึ่งมีเต๊นท์บริการประชาชนอยู่แล้ว รวมถึงผู้ที่ต้องการมาทำโรงทาน ขอให้ศูนย์อำนวยการ 2 แห่ง เป็นผู้พิจารณา เพราะจุดประสงค์หลักคือเพื่อให้เป็นที่หลบบแดด และหลบฝน
ทั้งนี้ พบว่า มีประชาชนเดินทางมาร่วมการถวายอาลัยมากกว่า 2 แสนคนต่อวัน จึงคาดว่า ในช่วงวันหยุดยาว วันปิยมหาราช และวันที่ 28 ตุลาคมนี้ซึ่งเป็นวันครบรอบ 15 วัน ในพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล ครบ 15 วัน จะมีประชาชนจากต่างจังหวัดเดินทางเข้ามาถวายสักการะเป็นจำนวนมาก จึงได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนการทำงานเพื่อดูแลประชาชน ขณะเดียวกัน มหาเถระสมาคม ได้จัดพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลในต่างจังหวัด เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าร่วมพิธีได้
ส่วนสถานการณ์ความมั่นคงในขณะนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ไม่มีสิ่งบอกเหตุความเคลื่อนไหวใด ๆ ส่วนกระแสข่าว การวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นั้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายได้ชี้แจงทำความเข้าใจผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแล้ว และจะมีการประกาศให้ทราบเป็นระยะต่อไป
พร้อมกันนี้ นายสุวพันธ์ ยังยังยืนว่า พายุไห่หนานและซาเระกา ที่มีการเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย ไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย แต่จะฝนตกระหว่างวันที่ 19-22 ตุลาคม ในช่วงบ่ายและค่ำ ซึ่งเป็นฝนตามฤดูกาลปกติ ดังนั้นขอประชาชน อย่าวิตกกังวล และขอให้ยุติการเผยแพร่ภาพเพราะทำให้เกิดความสับสน
...