+++ประกาศราชกิจจานุเบกษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพิ่มเติมอีก 33 คน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.)ประกอบด้วย 1.พล.ท.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา 2.พล.อ.ท.จิรวัฒน์ มูลศาสตร์ 3.นายเจน นำชัยศิริ 4.พล.ต.เจริญชัย หินเธาว์ 5.นายเจริญศักดิ์ ศาลากิจ 6.พล.ต.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ 7.พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน 8.พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช 9.พล.อ.อ.ชูชาติ บุญชัย 10.พล.ต.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ 11.พล.ท.ณัฐพล นาคพาณิชย์ 12.พล.ร.อ.ทวีชัย บุญอนันต์ 13.พล.อ.ธนดล สุรารักษ์ 14.พล.ต.ธรรมนูญ วิถี 15.พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ 16.นายปรีดี ดาวฉาย 17.พล.ร.อ.พลเดช เจริญพูล 18.พล.ต.พัลลภ เฟื่องฟู 19.พล.ร.ท.รัตนะ วงษาโรจน์ 20.พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ 21.นายวิทยา ผิวผ่อง 22.พล.ต.วุฒิชัย นาควานิช 23.พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร 24.พล.ท.ศิริชัย เทศนา 25.พล.อ.ศุภรัตน์ พัฒนาวิสุทธิ์ 26.พล.อ.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล 27.พล.ท.สรรชัย อจลานนท์ 28.พล.ต.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ 29.นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข 30.พล.ร.อ.สุชีพ หวังไมตรี 31.พล.อ.อ.สุทธิพงษ์ อินทรียงค์ 32.พล.ท. สุรใจ จิตต์แจ้ง 33.พล.อ.อ.สุรศักดิ์ ทุ่งทอง
+++คณะรัฐมนตรี(ครม.) แต่งตั้งนายวิจารย์ สิมาฉายา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เป็น ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวิจารย์กล่าวว่า จะยึดหลักความเป็นธรรม โปร่งใส และจะขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตทุกส่วนให้เป็นรูปธรรม รวมทั้งการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เช่น ปัญหาขยะ ทรัพยากรป่าไม้ และทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ คาดว่าที่ได้รับการแต่งตั้งเนื่องจากมี ประสบการณ์ในการทำงานขณะเป็นรองปลัด ได้ขับเคลื่อนเรื่องของความโปร่งใสในการแต่งตั้ง การตั้งกฎระเบียบต่างๆ ขึ้นมา ซึ่งถือเป็นรูปธรรมในการพัฒนาประเทศไทย 4.0 ตามนโยบายรัฐบาล
+++ประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ที่ รัฐสภา ช่วงบ่ายนี้ หลังจากที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. ส่งมอบรัฐธรรมนูญให้กับพล.อ.ประยุทธ์ นายมีชัย กล่าวว่า ตอนนี้ กรธ.มีภาระที่ต้องทำกฎหมายลูกให้เสร็จ การจัดทำพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยพรรคการเมือง และ พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กฎหมาย 2 ฉบับ ต้องทำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะจะได้ไปเตรียมตัว วางเป้าหมายทำให้เสร็จภายใน 1 เดือน เพราะต้องใช้เวลาพิจารณาในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อีก 70 วัน ถึงจะออกเป็นกฎหมาย กรธ.อาจไม่ได้มีโอกาสฟังความเห็นอย่างทั่วหน้า แต่เตรียมจัดเวทีรับฟังความเห็นของประชาชนตามภูมิภาคต่างๆ แล้ว สำหรับพรรคการเมืองเปิดรับฟังความเห็นในภาคต่างๆ แต่คงไม่ทำในรูปแบบของการเดินสายพบ
+++ด้านนายกฯ กล่าวว่า เมื่อได้รับร่างรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้ว ต้องตรวจทานก่อนจะใช้เวลา 30 วัน ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ นายมีชัย กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ได้แสดงความเห็นใจ ขอให้ กรธ.อดทนเพราะทุกคนต่างโดนเล่นงานกันไม่มากก็น้อย
+++ขณะที่ กกต. บ่ายนี้ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รักษาราชการแทน เลขาธิการกกต. ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการจัดทำระบบการลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (I - Vote) ระหว่าง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ,กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ,สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)
+++การเพิ่มเงินอัตราตอบแทนตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทั้งฝ่ายปกครองและฝ่ายรักษาความสงบ ครม.เห็นชอบให้เพิ่มเงินอัตราค่าตอบแทน ดังนี้ เดิมกำนัน ได้รับเงินเดือน 10,000 บาท เพิ่มเป็น 15,000 บาท ผู้ใหญ่บ้านเดือนละ 8,000 บาท เพิ่มเป็น
13,000 บาท แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทั้งฝ่ายปกครองและฝ่ายรักษาความสงบเดือนละ 5,000 บาท เพิ่มเป็น 10,000 บาท การเพิ่มค่าตอบแทนครั้งนี้ ทำให้งบประมาณเพิ่มขึ้นปีละกว่า 800 ล้านบาท
+++พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับเงิน 15,000 บาททันที แต่จะขึ้นทีละ 1 ขั้นต่อปี ตกปีละ 200 บาท ทำให้ได้รับเงิน 10,200 บาทในปีหน้า แต่หากเป็นคนทำงานมีประสิทธิภาพ โดดเด่นกว่าคนอื่น จะได้รับ 2 ขั้น คือ 400 บาท โดยผู้ได้รับ 2 ขั้นจะต้องไม่ติดกันเกิน 2 ปี ทำแบบนี้ไปจนกว่าจะถึงเพดานสูงสุดของตำแหน่งนั้นๆ
+++การหารือร่วมกันระหว่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กับแจ๊ก หม่า ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัทอาลีบาบา นายสมคิด เปิดเผยว่า
ทั้งนี้รัฐบาลไทยกับอาลีบาบาจะตั้งคณะทำงาน 2 ฝ่ายมาร่วมผลักดัน ประเทศไทย 4.0 ทั้งเรื่องอีคอมเมิร์ซ สตาร์ทอัพ ทำแผนปฏิบัติการภายใน 1 ปี แจ๊ก หม่าจะมาช่วยฝึกนักธุรกิจและเอสเอ็มอีของไทยเรื่องการค้าขายผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ โดยจะให้เกิดการตื่นตัวในเด็กรุ่นใหม่เพื่อสร้างผู้ประกอบการใหม่หรือสตาร์ทอัพ ขายสินค้าให้กับคนทั่วโลก หวังจะให้เด็กไทยทำการค้าแบบอีคอมเมิร์ซเป็น จะเริ่มตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป
+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 56 เซนต์ ปิดที่ 50.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 73 เซนต์ ปิดที่ 52.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงหนัก ลดลง 200.38 จุด ปิดที่ 18,128.66 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 26.93 จุด ปิดที่ 2,136.73 จุด แนสแดค ลดลง 81.89 จุด ปิดที่ 5,246.79 จุด
+++ราคาทองคำ ลดลงเป็นวันที่ 7 ในรอบ 8 วัน หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินปอนด์ ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 4.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,255.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึง กรณีที่ต้องยกเลิกประชุมพิจารณาข้อมูลตรวจสอบการรับผิดของเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์ให้เอกชนและผู้ตรวจสอบข้าว หลังต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวอีก 80 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากตัวแทนกระทรวงการคลังไม่ได้เข้าร่วมด้วย ว่า นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้โทรศัพท์มาขอโทษ ในส่วนตัวบอกว่าไม่เป็นไร ผิดพลาดกันได้ จากนี้จะเรียกประชุมให้เร็วขึ้น ไม่ต้องรายงานอะไรนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ถ้าไม่โทรจะต้องรายงานว่าเกิดเรื่องอะไร
+++ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้มอบหมายใดๆ มายังกระทรวงการคลัง ถึงการลงนามคำสั่งทางปกครองเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจำนำข้าวจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในสัดส่วน 20% ของค่าเสียหาย 1.78 แสนล้านบาท คิดเป็นวงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท ในส่วนของกระทรวงการคลัง นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายให้ลงนามแทน ซึ่งไม่มีปัญหา ถ้าลงนามไปแล้วต้องขึ้นศาลก็ต้องขึ้น
+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน (กนร.)ที่ กระทรวงแรงงาน
+++พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปราชการ เพื่อชี้แจงสถานการณ์และนโยบายรัฐบาลต่อการส่งเสริมทัวร์ คุณภาพอย่างยั่งยืน และสร้างความเชื่อมั่นในตลาดนักท่องเที่ยวจีน ระหว่างวันที่ 12-14 ตุลาคม 2559 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
+++ศพลูกหาย หลังจากที่ นายสุทธิรัตน์ วังกลาง อายุ 32 ปี ได้พา น.ส.นา (นามสมมติ) ซึ่งเป็นน้องสาว เดินทางเข้าพบร.ต.อ.สง่า มูลจัด รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ หลัง น.ส.นาเดินทางไปรับศพลูกสาว อายุครรภ์ 6 เดือน ที่คลอดก่อนกำหนดและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ สาเหตุเกิดจากหัวใจล้มเหลว แต่กลับได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่าศพทารกได้หายไป และยังถูกปัดความรับผิดชอบ
+++นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรปราการ ยืนยันไม่ได้นิ่งนอนใจ ดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เบื้องต้นยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าคนในมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เนื่องจากต้องรอผลการสอบสวนเจ้าหน้าที่เวรทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าเวรนิติเวช เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ห้องพักศพทุกคน
CR:คลังภาพ รัฐบาลไทย