เหลือเวลาอีกเพียง 1 เดือนก่อนที่จะมีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ โพลล์สำรวจคะแนนเสียงจากทุกสำนักต่างระบุว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคเดโมแครต กำลังมีคะแนนนำเหนือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งจากพรรครีพับลิกันแบบไม่ทิ้งห่างมากนัก ผลการสำรวจของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นที่สรุปผลการสำรวจความนิยมทางโทรศัพท์จาก 5 โพลล์ทั่วสหรัฐฯ พบว่า นางคลินตันได้รับความนิยมร้อยละ 44 ขณะที่นายทรัมป์ได้รับคะแนนความนิยมร้อยละ 42
ด้านสำนักข่าวบีบีซี สรุปผลการสำรวจความนิยมจากโพลล์สำนักต่าง ๆ 5 สำนักในสหรัฐฯ เช่นกันและระบุว่า นางคลินตันได้รับความนิยมร้อยละ 48 ขณะที่นายทรัมป์ได้ร้อยละ 44 ผลการสำรวจคะแนนความนิยมดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่ทั้งคู่จะขึ้นโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์ หรือดีเบตร่วมกันเป็นครั้งที่ 2 ในคืนพรุ่งนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือเช้าวันจันทร์ตามเวลาในประเทศไทย ที่มหาวิทยาลัยวอชิงตัน เมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิซซูรี คาดว่า ประเด็นหนึ่งที่จะถูกหยิบยกมาแสดงวิสัยทัศน์คือเรื่องสิทธิสตรี หลังจากนายทรัมป์เพิ่งโดนโจมตีอย่างหนักจากกรณีที่เคยพูดจาดูถูกผู้หญิงไว้เมื่อ 11 ปีก่อน จนทำให้เขาต้องออกมาขอโทษผ่าน
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น พร้อมยืนยันว่าคำพูดเช่นนั้นไม่ได้สะท้อนตัวตนจริงๆ ของเขา หลังนายทรัมป์ ออกมาขอโทษเรื่องดังกล่าว ทีมหาเสียงของนางคลินตันก็ได้ส่งข้อความในทวิตเตอร์ระบุว่าสิ่งที่นายทรัมป์เคยกล่าวไว้เป็นเรื่องที่แย่มาก และเห็นว่าไม่ควรอย่างยิ่งที่จะยอมให้เขาก้าวขึ้นเป็นผู้นำประเทศ
ด้านแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับทีม หาเสียงเลือกตั้งของพรรคเดโมแครตกล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า คลิปวิดีโอที่นายทรัมป์พูดจาดูถูกผู้หญิง และขณะนี้ได้ถูกเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวางแล้วนั้นจะกลายเป็นประเด็นใหม่ในการดีเบต รวมทั้งมีกระแสข่าวว่าทีมหาเสียงของนางคลินตัน จะนำเรื่องนี้มากดดันนายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ สังกัดพรรครีพับลิกันและสมาชิกพรรคคนอื่นๆ ให้ตัดสินใจปฏิเสธการรับรองคุณสมบัติของนายทรัมป์ด้วย
ทีมต่างประเทศ
แฟ้มภาพ