ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.
++++ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยได้ลงเรือเพื่อนำถุงยังชีพ ไปมอบให้กับประชาชนตามลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่บริเวณวัดโบสถ์ล่าง หมู่ 8 ต.บ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ไม่ดูเพียงบางจังหวัดหรือเฉพาะพื้นที่ แต่ดูความเชื่อมโยง หากระบายน้ำไม่ทัน น้ำจะท่วมทุกพื้นที่เหมือนที่เกิดขึ้นในอดีต ต้องหามาตรการดูแลประชาชนในแต่ละพื้นที่ ส่วนข้าวที่ยังไม่เกี่ยวและถูกน้ำท่วม ต้องดูแลเป็นพิเศษ ขณะนี้พบว่าปริมาณน้ำในเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 1,800-1,900 ล้านลบ.ม. หากไม่ระบายน้ำปริมาณจะเกิน 2,500 ล้านลบ.ม. และจะไหลเข้ากรุงเทพฯ ทำให้เกิดความเดือดร้อน เพราะเป็นศูนย์กลางของประเทศ ยืนยันว่าไม่ได้รักกรุงเทพฯ มากกว่าอยุธยา แต่ต้องบริหารจัดการน้ำให้สมดุล ขอให้ประชาชนและสื่อ ช่วยทำความเข้าใจ ไม่ใช่นำเสนอแต่ภาพความเดือดร้อน
+++นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "เรารักชลประทาน" มีความรู้สึกว่าสังคมของคนบางกลุ่มในลุ่มเจ้าพระยา ยังกังวลและไม่เข้าใจสภาพธรรมชาติ ตามความเป็นจริงในภาวะนี้และตราบจนหมดหน้าฝน มีการนำภาพน้ำท่วมบางพื้นที่บางแห่งซึ่งเป็นธรรมชาติของเขามาขยายความ น้ำในแม่น้ำ เจ้าพระยาไหลเรื่อยลงมาจนถึงกรุงเทพฯ จะไม่มีระดับล้นตลิ่งให้เป็นอันตรายเลย ยกเว้นบางอำเภออาจเป็นปัญหาแต่จัดการได้ แม้ขณะนี้ภาคกลางมีร่องมรสุมเพิ่มฝนจำนวนหนึ่ง ไม่เพิ่มน้ำในแม่น้ำมากมายยกเว้นในเขตเมืองที่ระบบระบายน้ำบกพร่อง ส่วนน้ำ 4 เขื่อนหลักที่รวบรวมไว้ได้ถึงขณะนี้น่าพอใจ แต่ต้องการให้พยายามอีก เพราะอีกไม่นานร่องมรสุมพ้นกรุงเทพฯ และลงใต้แล้ว
+++นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ รองอธิบดีกรมชลฯ ระบุว่า เร่งพร่องน้ำเขื่อนป่าสักฯ เพราะมีปริมาณน้ำไหลเข้าเกือบ 50 ล้านลบ.ม. ต่อวัน ยังมีช่องว่างรับน้ำได้เพียง 122 ล้านลบ.ม. จะเต็มเขื่อน ถ้าไม่พร่องน้ำโดยการระบายควบคุมที่เขื่อนพระรามหก ก่อนไหลออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาไม่ให้เกิน 600 ลบ.ม. ต่อวินาที ตอนนี้ระบายในอัตรา 500 กว่าลบ.ม. ต่อวินาที รวมทั้งปริมาณฝนช่วงต้นเดือนนี้จะเห็นว่ามีฝนอยู่ และมีผลกระทบบริเวณ จ.นครสวรรค์, ชัยนาท มีลุ่มน้ำสะแกกรัง ที่ไม่มีอาคารควบคุม ทำให้ปริมาณน้ำเข้ามากกว่า 100 ลบ.ม.ต่อวินาที จะมีปริมาณน้ำสะสมสูงสุดใน 3 วันข้างหน้า ทำให้น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นมาเข้าเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,500 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่วนปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ ฝนตกเกิน 90 มม. มีปัญหาแน่เพราะระบบระบายดีไซน์มารับได้ 60 มม. กรมชล ประทานได้สูบน้ำรอบนอกกทม.ออกคลองชายทะเลช่วยก่อนน้ำมาถึงกทม.ดังนั้นการเอ่อล้นจากแม่น้ำเจ้าพระยาจึงไม่มี
+++นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ขอให้ประชาชนที่ลงทะเบียนเพื่อขอรับสวัสดิการแห่งรัฐ ได้เข้ามาตรวจข้อมูลตัวเองว่ามีชื่อในระบบหรือไม่ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร หรือเว็บไซต์ของ สศค. เพราะล่าสุดหลังจากการคัดกรองผู้ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นที่แล้วเสร็จไปเมื่อ 1 ต.ค.2559 พบว่า มีรายชื่อผู้ที่ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 8.32 ล้านรายในจำนวนนี้ พบว่า เป็นผู้ที่มีรายได้น้อยต่ำกว่า 3 หมื่นบาทต่อปี มีกว่า 4.41 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วน 53% ของผู้ที่ลงทะเบียนทั้งหมด ในจำนวนผู้ที่มีรายได้ไม่ถึง 3 หมื่นบาทต่อปี จำนวนกว่า 4.41 ล้านรายพบว่า เป็นผู้ที่มีอาชีพทำการเกษตรมากที่สุดรวมกันราว 2.85 ล้านราย ซึ่งรัฐบาล โดยคณะรัฐมนตรี ( ครม. ) เห็นชอบให้ความช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ก่อน โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โอนเงินเข้าบัญชีให้แก่เกษตรกรที่ลงทะเบียนและมีรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาทต่อปี จำนวน 1.51 ล้านราย จะได้รับเงินโอน 3 พันบาทต่อคน และผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 3 หมื่นบาทต่อปี แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี จำนวน 1.34 ล้านราย จะได้รับเงินโอน 1.5 พันบาทต่อคน คิดเป็นวงเงิน 6.54 พันล้านบาท คาดว่าจะเร่งดำเนินการโอนเงินให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อให้เป็นของขวัญปีใหม่ให้ผู้มีรายได้น้อย โดยจะเป็นการโอนผ่านระบบพร้อมเพย์ หรือเข้าบัญชีโดยตรงสำหรับเรื่องเบี้ยผู้สูงอายุ กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาหามาตรการหรือการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุที่มีฐานะดีแสดงความประสงค์ไม่ขอรับเบี้ยยังชีพ เพื่อให้มีเงินในส่วนดังกล่าวมาเพิ่มให้ผู้สูงอายุที่มีฐานยากจนได้มีเงินไว้เลี้ยงชีพยามชรามากยิ่งขึ้น
+++โลกโซเชียลยังคงมีการวิพากษ์วิจารณ์ และส่งต่อข้อมูลกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะเดินทางไปร่วมประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียน-สหรัฐอเมริกา ณ มลรัฐฮาวาย ระหว่างวันที่ 29 ก.ย. - 2 ต.ค. ซึ่งใช้งบประมาณกว่า 20.9 ล้านบาทอย่างต่อเนื่อง พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงกรณีเอกสารรายชื่อผู้ร่วมเดินทางไปประชุมที่ฮาวายว่า เอกสารที่เผยแพร่เท็จจริงอย่างไรไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าคณะเดินทางไป 38 คน และเดินทางกลับเพิ่มมาอีก 3 คน ซึ่งเป็นส่วนที่ล่วงหน้ารวมเป็น 41 คน โดยทุกคนเดินทางไปปฏิบัติราชการ
+++นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่า ในเที่ยวบินขาไปมีผู้โดยสาร 38 คน และเที่ยวบินขากลับมีผู้โดยสาร 41 คน ตามที่โฆษก กห.ชี้แจง ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายนั้น สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ขอตรวจสอบมาที่การบินไทยแล้ว ซึ่งบริษัทพร้อมให้ความร่วมมือในการถูกตรวจสอบอย่างเต็มที่ โดยราคาที่เสนอเป็นระหว่างองค์กรของรัฐต่อรัฐตามราคาต้นทุน ซึ่งตรวจสอบได้ และสามารถเปรียบเทียบราคากับสายการบินอื่นในระดับพรีเมียมได้ และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว การบินไทยจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวว่า ข้อมูล ณ ขณะนี้ สตง.ยังไม่พบความผิดปกติในการใช้งบประมาณ หรือบ่งชี้ว่ามีการทุจริต แต่ต้องรอข้อมูลจากการบินไทยในการวางบิลค่าใช้จ่ายทั้งหมด และมาเทียบกับราคากลางอีกครั้งว่าตรงกันหรือไม่ ในส่วนของรายละเอียดว่าเสิร์ฟอาหารราคาแพงหรือผู้ร่วมเดินทางเป็นใครบ้าง สตง.จะรับไปพิจารณาในรายละเอียด ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเบื้องต้นทั้งหมดภายในวันที่ 7 ต.ค.นี้ หลังจากนั้นจะส่งผลสรุปไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อ ตรวจสอบโครงการและการดำเนินการเรื่องนี้ของ สตง. เพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจ และมั่นใจว่า สตง.ไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้เพื่อประจบหรือมีหน้าที่ต้องไปเอาใจใคร ที่ผ่านมา สตง.ก็ตรวจสอบการใช้งบประมาณของทุกหน่วยงาน โดย สำนักนายกรัฐมนตรีได้ส่งหลักฐานเอกสารในโครงการดังกล่าวให้ สตง.พิจารณาแล้วพบว่า มีหนังสือเชิญอย่างไม่เป็นทางการจากฝ่ายมั่นคงของสหรัฐให้เข้าร่วมการประชุมในวันที่ 29 ก.ย. - 2 ต.ค.2559 จริง
++ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาคดีที่ธนาคารแห่งประเทศไทยและกองทุนรักษาระดับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศร่วมกันเป็นโจทก์ที่ 1-2 ยื่นฟ้องนายเริงชัย มะระกานนท์ อดีตผู้ว่าการ ธปท. เป็นจำเลย จากกรณีที่นายเริงชัยออกคำสั่งทำธุรกรรมใช้เงินทุนสำรองไปปกป้องค่าเงินบาท (สวอป) เพื่อปกป้องค่าเงินบาท ขณะมีวิกฤติเศรษฐกิจค่าเงินบาทลอยตัว ปี 40 อันเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 186,015,830,720 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนยกฟ้องตามศาลอุทธรณ์โดยเห็นว่าการกระทำของนายเริงชัย ไม่ได้เป็นการกระทำละเมิดและไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายกว่า 1.8 แสนล้านบาท เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจึงถือว่าผลคดีเป็นที่ยุติตามคำพิพากษาศาลฎีกา