คลช.แจงส่งกลับโจชัว หว่อง/ศาลฎีกา ยกฟ้องเริงชัย ปกป้องเงินบาท/โฆษกกลาโหม แจงทริปไปฮาวาย

05 ตุลาคม 2559, 20:12น.


+++พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เปิดเผยว่า หลังจาก คสช.ได้รับข้อมูลอย่างเป็นทางการจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)ในการพิจารณาการเข้าเมือง และกักตัวนายโจชัว หว่อง แกนนำนักศึกษาเข้าร่วมกับการชุมนุมชาวฮ่องกงประท้วงต่อต้านรัฐบาลจีน ที่สนามบิน จากเหตุผลการเดินทางเข้าประเทศไทยไม่ตรงวัตถุประสงค์  โดยเฉพาะการที่จะเข้ามาร่วมกิจกรรมแสดงความคิดเห็นในประเทศ อาจสุ่มเสี่ยงต่อความไม่เรียบร้อยในมุมต่างๆได้ โดยเฉพาะพฤติกรรมในอดีต ยิ่งกรณีใช้ประเทศที่สามเคลื่อนไหวอาจเกิดความเข้าใจผิดจนเกิดเหตุบานปลายได้ ทั้งนี้เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของการอาจเกิดความไม่เรียบร้อย  คสช.จึงจำเป็นต้องให้ ตม.ดำเนินการส่งกลับประเทศต้นทาง ด้วยสายการบินเดิมที่ใช้เดินทางมาในช่วงบ่าย



+++นายโจชัว หว่อง นักศึกษาและนักกิจกรรมในฮ่องกง เป็นที่สนใจไปทั่วโลกตั้งแต่ปี 2557 ในฐานะหนึ่งในผู้นำการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงที่เรียกกันว่า การปฏิวัติร่ม เดินทางมาประเทศไทยเนื่องจากได้รับเชิญให้ร่วมพูดในงานที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันที่ 6 ต.ค.  



+++สถานการณ์น้ำ นายทองเปลว ทองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ยืนยันว่า ปริมาณน้ำจากพื้นที่ภาคเหนือ ที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ขณะนี้อยู่ที่ 1,853 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ซึ่งเป็นปริมาณอยู่ในระดับปกติ และควบคุม บริหารจัดการน้ำได้ ขณะที่ ปริมาณใต้เขื่อนเจ้าพระยา ก่อนเข้าสู่กรุงเทพมหานคร จะลดระดับลง เพราะระหว่างทางมีแก้มลิง และพื้นที่รองรับน้ำ ทำให้ปริมาณที่จะไหลเข้าสู่กรุงเทพฯ เหลือเพียง 1,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะปริมาณน้ำที่จะส่งผลให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ ได้ จะต้องมีปริมาณมากกว่า 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยืนยันว่า ปริมาณน้ำในปีนี้อยู่ในเกณฑ์ปกติ  ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ยังบริหารจัดการน้ำได้ตามปกติ



+++นายกรัฐมนตรี ยังกำชับให้กรมชลประทาน ติดตามสถานการณ์น้ำทุกชั่วโมง และให้ความสำคัญพื้นที่ชุมชน และการเกษตร และยังสั่งการให้เตรียมเก็บน้ำไว้ในแก้มลิง เพื่อใช้ในหน้าแล้ง รวมถึง เตรียมเครื่องสูบน้ำ ไว้เพื่อระบายน้ำ



+++ความคืบหน้าการปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องคำถามพ่วงประชามติ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า ขณะนี้การปรับแก้ถ้อยคำใกล้เสร็จแล้ว เพียงรอเวลาส่งไปให้นายกรัฐมนตรี สัปดาห์หน้า



+++ส่วนการจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง กรธ.พยายามเร่งรัดร่างกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับให้เสร็จก่อน ส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ( สนช.)พิจารณา ซึ่งต้องใช้เวลา 70-80 วัน เพื่อให้กกต.และพรรคการเมือง ได้เตรียมตัวจัดการเลือกตั้ง ยอมรับว่ามีหลายประเด็นที่ถูกปรับเปลี่ยน โดยเฉพาะกระบวนการสรรหา กกต.เพิ่ม 2 คน จากนั้น กรธ.จึงจะส่งร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การเลือกตั้ง ส.ส. และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.เป็นลำดับถัดไป  พร้อมเปิดเผยว่า กรธ.จะนำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 4 ฉบับลงพื้นที่รับฟังความเห็นจากประชาชนทั่วประเทศอีกครั้ง



+++คดีปกป้องค่าเงินบาทเมื่อปี 2540 ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกองทุนรักษาระดับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ร่วมกันเป็นโจทก์ที่ 1-2 ยื่นฟ้องนายเริงชัย มะระกานนท์ อดีตผู้ว่าการธปท. เป็นจำเลยเรื่องละเมิด จากกรณีออกคำสั่งทำธุรกรรมใช้เงินทุนสำรองไปปกป้องค่าเงินบาท (สวอป) เพื่อปกป้องค่าเงินบาท เมื่อมีวิกฤตเศรษฐกิจค่าเงินบาทลอยตัว ปี 2540 อันเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเรียกค่าเสียหาย เป็นเงินจำนวน 186,015,830,720 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นายธนกร แหวกวารี ผู้รับมอบฉันทะนายเริงชัย เปิดเผย ภายหลังฟังคำพิพากษาว่า ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ที่ให้ยกฟ้องโดยเห็นว่าการกระทำของนายเริงชัยไม่ได้เป็นการกระทำละเมิด และไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายกว่า 1.8 แสนล้านบาท เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจึงถือว่าผลคดีเป็นที่ยุติตามคำพิพากษาศาลฎีกา



+++ขณะที่นายนพดล หลาวทอง ทนายความของนายเริงชัย กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็นการล้างมลทินแล้วที่ต้องต่อสู้คดีมายาวนานถึง 15 ปี โดยนายเริงชัยไม่เคยถูกกล่าวหาคดีทางอาญาว่าทุจริต เพียงแต่มีการเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งซึ่งการสู้คดีได้ยืนยันแล้วว่านายเริงชัย ได้กระทำตามหน้าที่ขณะนั้นอย่างระมัดระวังที่สุดแล้ว

+++กรณีที่การเผยแพร่รายชื่อบุคคลที่ร่วมคณะกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เดินทางไปประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน-รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ที่มลรัฐฮาวาย สหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 29 ก.ย.ถึง 2 ต.ค. ที่ระบุมีผู้ประกาศข่าว ททบ.5 ร่วมคณะ พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์  โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่า ในคณะมีผู้โดยสาร 38 คน ขากลับมีนายทหารเพิ่มมาอีก 3 คน รวมเป็น 41 คน และไม่มีผู้ประกาศข่าวททบ.5 ร่วมคณะไปด้วย  และคณะผู้เดินทางมีเพียง 2 คนที่เป็นพลเรือน ซึ่งไม่ใช่ผู้บริหารบริษัทซีพี แต่เป็นผู้ประสานงานความมั่นคงด้านเศรษฐกิจให้กับ พล.อ.ประวิตร  ซึ่งทำงานร่วมกันตั้งแต่มีคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) แล้ว



+++การชี้แจงของผู้บริหารสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 กรณีการเผยแพร่ข้อมูลและรายชื่อระบุว่า พ.ต.หญิงชลรัศมี งาทวีสุข ผู้ประกาศข่าว สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง5 เดินทางร่วมคณะ



+++พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนารายการและรายได้ และ พ.อ.จิระศักดิ์ เอี่ยมสมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายข่าว สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 5 เข้ายื่นหนังสือต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ขอให้มีการตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์ที่ระบุว่ารายการ เช้านี้ประเทศไทย ของช่อง 5 เป็นการบันทึกเทป โดยมี พ.ต.อ.สยาม บุญสม รองผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นผู้รับเรื่อง พร้อมทั้งชี้แจงกรณีที่ปรากฏชื่อ พ.ต.หญิงชลรัศมี ผู้ดำเนินรายการ เดินทางไปรัฐฮาวาย สหรัฐฯ กับคณะทำงานฝ่ายความมั่นคงของ พล.อ.ประวิตร



+++พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า ช่อง 5 มีการจัดรายการสดในสถานีวันละประมาณ 5 รายการ หนึ่งในนั้นคือรายการ เช้านี้ประเทศไทย ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00 - 08.00 น. และสามารถดูย้อนหลังผ่านเว็บไซต์ tv5.co.th หรือแอพพลิเคชั่นของช่อง 5 ซึ่งการทำข่าวในห้องส่งมีรายการข่าวต่อเนื่อง มีคนรับผิดชอบหน้าที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ ช่างภาพ ฯลฯ ดังนั้นจะเห็นกันหมดว่าใครมาจัดรายการหรือไม่มา เป็นพยานชี้ชัดได้ ยืนยันว่าทำรายการสดทุกวัน



+++ในส่วนของ พ.ต.หญิงชลรัศมี ก็ได้จัดรายการสด มีหลักฐานยืนยันจากองค์ประกอบต่างๆ ในเว็บไซต์ทั้งเครื่องแต่งกายและเนื้อหาข่าว หากใครสงสัยว่ามีการปกปิดซ้อนเร้นอะไรหรือไม่ก็สามารถสอบถามพยานบุคคลได้ วันที่ 29 ก.ย. พ.ต.หญิงชลรัศมี ก็จัดรายการที่มีเนื้อข่าวตามที่ปรากฏ และในวันที่ 30 ก.ย.ก็ยังมานั่งพูดอยู่ตามภาพที่ปรากฏ ไม่สามารถที่จะแยกร่างมาได้ ทั้งนี้ ในเว็บไซต์มีการระบุว่าเป็นรายการวันที่ 30 ก.ย. แต่เนื้อข่าวเป็นวันที่ 29 ก.ย. ทำให้เกิดความไม่เข้าใจ เราไม่มีการเอาข่าวดีเลย์มาออก จึงอยากให้ ปอท.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งอาจจะเป็นความผิดพลาดของคนก็ได้



+++นักลงทุนเทขายทองคำ หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พุ่งขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์  เคลื่อนไหวทิศทางเดียวกับ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของประเทศอื่นทั่วยูโรโซน ส่งผลให้ตลอดทั้งวัน ราคาทองคงที่ คือ ทองแท่งรับซื้อบาทละ 20,900 บาท ขายออกบาทละ 21,000 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 20,526.64 บาท ขายออกบาทละ 21,500 บาท



+++ขณะที่ค่าเงินบาท อ่อนค่าลงปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.79-34.83 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่น ๆ



+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.14 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,509.92 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,666.82 ล้านบาท



+++ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวญี่ปุ่น ปิดปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนในวันนี้ เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยน ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม แรงบวกได้ถูกสกัดลง หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป( อีซีบี ) อาจจะลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร ดัชนีนิกเกอิปิดบวก 83.59 จุด แตะที่ 16,819.24 จุด



+++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 98.87 จุด ปิดที่ 23,788.31 จุด หลังจากที่นายไมเคิล สทีน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยผ่านการทวีตข้อความว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของอีซีบีไม่ได้หารือกันเกี่ยวกับการลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร

+++คณะกรรมการพิจารณารางวัลโนเบลของสวีเดน แถลงว่า คณะกรรมการมอบรางวัลโนเบลสาขาเคมีปีนี้ให้กับ 3 นักวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาเครื่องจักรกลขนาดเล็กที่สุดในโลกคือนายฌอง ปิแอร์ โซวาส, เซอร์ เจ เฟรเซอร์ สต็อดดาร์ด และนายเบอร์นาร์ด แอล เฟรินกา โดยทั้ง 3 คนจะแบ่งเงินจากมูลค่ารางวัลทั้งหมด 8 ล้านโครนสวีเดนสำหรับผลงานคือ การร่วมกันออกแบบและพัฒนาเครื่องจักรกลจิ๋วระดับโมเลกุลคือมีขนาดบางกว่าเส้นผมหลายพันเท่า ซึ่งอาจจะถูกออกแบบพัฒนาเป็นเครื่องมือแพทย์สำหรับฉีดยาสู่ร่างกายเพื่อรักษาเซลล์มะเร็งโดยตรง นอกจากนี้สามารถจะประยุกต์ใช้เพื่อออกแบบวัสดุอื่นๆที่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและง่ายดาย



แฟ้มภาพ



 





 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X