ธนาคารโลก ปรับจีดีพีเศรษฐกิจไทยเพิ่มร้อยละ 0.6 ส่งผลปีนี้โตร้อยละ 3.1 ชี้มีความเสี่ยงจากการส่งออกที่เปราะบาง และความไม่แน่นอนทางการเมือง อาจกระทบโครงการภาครัฐเลื่อนออกไปจนกระทบความเชื่อมั่น
นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ในรายงานของธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี2559 ขยายตัวที่ร้อยละ 3.1 ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 จากเดิมคาดการณ์ร้อยละ 2.5 เมื่อเดือนมิถุนายน โดยเศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างเข้มแข็งกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วนเศรษฐกิจไทยในปี 2560 คาดว่า จะขยายตัวร้อยละ 3.1 อย่างไรก็ตามการเติบโตของเศรษฐกิจไทยยังต่ำกว่าศักยภาพที่ควรขยายตัวร้อยละ 3.5 ซึ่งหากผลักดันการลงทุนภาครัฐได้ดีโอกาสเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ถึงร้อยละ4-5 ปัจจัยหลักในการผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย คือการใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัวร้อยละ 3.6 และการลงทุนภาครัฐขยายตัวร้อยละ 3.3 การท่องเที่ยวที่รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มสูง เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนและประเทศอื่นๆในเอเชียเพิ่มขึ้น ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนยังเติบโตน้อย เพียงร้อยละ2.3
ในขณะที่ภาคการส่งออกยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย โดยคาดการส่งออกและบริการปีนี้ขยายตัว ร้อยละ 0.4 แต่การส่งออกยังเปราะบาง ต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจจีนขาดเสถียรภาพด้านการเงินอาจทำให้บรรษัทที่มีหนี้สินสูงอาจผิดนัดชำระหนี้ อาจส่งผลกระทบกับไทยในเรื่องการค้าและการลงทุนจากจีน เนื่องจากไทยส่งออกสินค้าไปประเทศจีนถึงร้อยละ 12 จากยอดการส่งออกทั้งหมด และเงินลงทุนจากจีนคิดเป็นร้อยละ 8 ของเงินทุนไหลเข้าโดยตรงจากต่างประเทศ ส่วน ความเสี่ยงจากเสถียรภาพทางการเมือง หากมีการเลื่อนการปฏิรูปออกไป ทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมือง จะทำให้การใช้จ่ายภาครัฐถูกเลื่อนออกไปกระทบต่อการลงทุนภาครัฐที่มีปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุน อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่าผลการออกเสียงประชามติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญและการที่รัฐบาลยืนยันจะมีการเลือกตั้งในปี 2560 ได้ช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องนี้ไปได้