ในการประชันวิสัยทัศน์ หรือดีเบต ของผู้ลงสมัครในฐานะรองประธานาธิบดีสหรัฐ คือนายไมค์ เพนซ์ วัย 57 ปี จากพรรครีพับลิกันและนายทิม เคน วัย 58 ปี จากพรรคเดโมแครต
ทั้งนี้ นายเพนซ์เป็นคู่สมัครของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะที่ นายเคนเป็นคู่สมัครของนางฮิลลารี คลินตัน โดยในการกล่าวดีเบต นายเพนซ์ กล่าวว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัก โอบามา สร้างภาระหนี้สินมากมายมหาศาล และอวดอ้างว่า รัฐอินดิแอน่าที่เขาเป็นผู้ว่าการฯ มีการบริหารงบประมาณสมดุล ขณะที่ในประเด็นเกี่ยวกับนโยบายสาธารณสุขที่เรียกกันว่าโอบาม่าแคร์ นายเพนซ์เห็นว่าเป็นเรื่องที่บ้าคลั่งมาก และเห็นว่า สหรัฐอเมริกาควรมีประธานาธิบดีที่มีความเหมาะสมกับงานหน้าที่และความรับผิดชอบ ซึ่งก็คือนายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยในเรื่องของภาษีนายทรัมป์ที่มีการพูดถึงกันมากนั้น นายเพนซ์ ระบุว่า นายทรัมป์เป็นนักธุรกิจไม่ใช่นักการเมือง และการจ่ายภาษีของเขามีปัญหาเกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่เมื่อนายเคนแย้งขึ้นมาว่า เหตุใดนายทรัมป์ถึงไม่จ่ายภาษี นายเพนซ์ก็เลี่ยงตอบว่า นายทรัมป์สร้างธุรกิจมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และ สร้างตำแหน่งงานนับหมื่นตำแหน่ง นอกจากนี้นายเพนซ์ยังวิจารณ์นางคลินตัน ว่ามีการเลือกปฏิบัติในการใช้กฎหมาย ส่วนในประเด็นผู้ลี้ภัยซีเรีย นายเพนซ์ชี้แจงกรณีที่เขาพยายามขัดขวางกลุ่มผู้ลี้ภัยซีเรียเข้ามาตั้งถิ่นฐานในรัฐอินดิแอน่า ว่าเป็นไปเพื่อปกป้องพลเมือง เนื่องจากในเหตุการณ์รุนแรงที่ปารีส มีผู้ลี้ภัยชาวซีเรียเข้าไปมีส่วนร่วม อย่างไรก็ตาม ความพยายามของนายเพนซ์ไม่เป็นผลและศาลมีคำสั่งให้ผู้ลี้ภัยชาวซีรัยสามารถตั้งถิ่นฐานได้ แต่จากความเคลื่อนไหวของนายเพนซ์ในประเด็นนี้ ทำให้นายเคน เห็นว่านายเพนซ์ทรยศต่อหลักการประชาธิปไตยแนวเจฟเฟอร์สัน
ด้านประเด็นการควบคุมอาวุธปืน นายเคน กล่าวว่าหากมีการตรวจสอบประวัติพื้นฐานก็จะสามารถป้องกันเหตุกราดยิงเวอร์จิเนีย เทคในปี 2550 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 32 ศพ กับกล่าวโจมตีนายทรัมป์ในประเด็นความเห็นที่เกี่ยวกับสตรี และกระแสการเหยียดผิว ว่าเป็นการรณรงค์ที่มุ่งไปในทางสร้างความเกลียดชัง ทั้งกล่าวด้วยว่า อเมริกาคือประเทศของผู้อพยพ นายเคน กล่าวด้วยว่า มีผู้สมัครเพียงคนเดียวที่สามารถเอาชนะกลุ่มก่อการร้ายได้ ซึ่งก็คือนางคลินตัน นางคือส่วนหนึ่งของคณะทำงานด้านความมั่นคงในการกำจัดนายอุซามะห์ บิน ลาดิน และกำจัดนายอาบู บาการ์ อัลแบกดาดี ผู้นำกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ขณะที่นายทรัมป์กลับมีท่าทีชื่นชมผู้นำเผด็จการไม่ว่าจะเป็น วลาดิเมียร์ ปูติน, คิม จองอัน, มูอัมมาร์ กัดดาฟี แต่นายเพนซ์ก็โต้แย้งขึ้นมาว่า อเมริกามีความปลอดภัยน้อยลงเรื่อยๆ นับตั้งประธานาธิบดีโอบามา ดำรงตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม ตลอดการดีเบตของผู้สมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดีครั้งนี้นายทรัมป์ทวิตข้อความให้กำลังใจนายเพนซ์อย่างต่อเนื่อง และระบุว่า นายเพนซ์ได้รับชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ ขณะที่นางคลินตันทวิตข้อความว่า เป็นที่ชัดเจนว่านายเพนซ์ไม่สามารถตอบคำถามของอีกฝ่ายได้ ส่วนนักวิเคราะห์จากหลายสำนักมีความเห็นว่า นายเพนซ์ช่วยกู้ความเชื่อมั่นให้นายทรัมป์ได้ ส่วนนายเคนจะเป็นนักการเมืองที่ไม่มีสีสัน แต่เขาก็ทำได้ดีในการดีเบตครั้งนี้เช่นกัน
ด้านสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานผลการสำรวจความเห็นของผู้ชมการดีเบต ระบุว่านายเพนซ์เป็นฝ่ายชนะด้วยคะแนนร้อยละ 48 ต่อ 42
..
F163