หลังจากที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ลงนามแต่งตั้งให้พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานผู้แทนพิเศษของรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาภาคใต้ พลเอกอุดมเดช เปิดเผยว่า ขณะนี้รับทราบอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งจะต้องรอให้ผ่านคณะรัฐมนตรี(ครม.)ก่อน แต่เตรียมพร้อมที่จะทำงานหากตั้งเป็นทางการแล้วจะเรียกประชุมคณะผู้แทนชุดนี้ ก่อนที่จะลงพื้นที่เพื่อให้การทำงานรวดเร็วที่สุด คณะทำงานชุดนี้จะทำหน้าที่กำกับดูแลและประสานงานเพื่อขับเคลื่อนการแก้ปัญหาให้ดีขึ้น รวมถึงเน้นการทำงานให้สอดคล้องกับกลุ่มงานแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้านต่างๆ และแผนงานในปีงบประมาณ 2560 ที่มีอยู่แล้ว ขอให้มั่นใจว่าจะทำงานอย่างเต็มที่ พลเอกอุดมเดช กล่าวว่า กรอบการทำงานเป็นไปตามคำสั่งหัวหน้า คสช.มาตรา 44 จะเน้นประสานงานบูรณาการกับส่วนราชการต่างๆ ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่สั่งการหน่วยงานใดในพื้นที่ จะแบ่งงานให้กับชุดทำงานทั้ง12 คน รับผิดชอบในแต่ละกลุ่มงานให้เกิดความชัดเจน
แนวทางการทำงานจะเน้นลงพื้นที่เป็นหลัก ส่วนภารกิจในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ยังต้องรับผิดชอบอยู่
ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่าทหารคงไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ต้องชี้แจงว่าแต่ละคนดูแลพื้นที่ต่างๆ มาแล้วแทบทั้งสิ้น โดยเฉพาะกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า ที่มีแนวทางบูรณาการการทำงานกับทุกกระทรวง พลเอกอุดมเดช ยอมรับว่า ความรู้สึกกดดัน เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อมีงานและภาระหน้าที่ก็ต้องรับผิดชอบและต้องทำให้ดี ไม่ถึงกับกดดันมากแต่จะต้องทำให้ดีขึ้น ซึ่งการลงพื้นที่ทำงานยืนยันว่าไม่ขัดแย้งกับหน่วยงานเดิมที่มีอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ เพราะสมัยที่พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)ได้รับนโยบายมาเป็นปฏิบัติเอง ก็ได้วางระบบงานไว้ เพื่อทำให้มีการบูรณาการและทำงานคู่ขนานกันมาตลอด
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ